000
ปรึกษาเครื่องเสียง อจ. ไมตรี โทร 099-569-6459    
 
บอร์ดพูดคุย, ซื้อ-ขายเครื่องเสียง
>> audio-teams.com
>> noom-hifi.com
>> wijitboonchoo.com
>> hifi55.com  
>> sk-audiophile.com
>> htg2.net
นิตยสารเครื่องเสียง
>> what Hi-Fi? Thailand
>> The Wave
>> Audiophile-Videophile
>> gm2000.com
>> The Stereo
ร้านค้าเครื่องเสียง
>> Piyanas Electric
>> KS Sons Group
>> Conice (บ้านทวาทศิน)
>> อัศวโสภณ
>> munkonggadget.com
>> bkkaudio.com
 
ปรับขนาดตัวหนังสือ เช่น 15, 16, 18, 20, + + / ยกเลิกใส่ 0 :

หมวดหมู่ > เครื่องเสียงรถยนต์ > บทความเครื่องเสียงรถยนต์ > เครื่องเสียงเก่าน่าใช้หรือไม่
วันที่ : 06/04/2016
9,075 views

เครื่องเสียงเก่าน่าใช้หรือไม่

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว เครื่องเสียงที่ติดมากับรถจากโรงงานมีคุณภาพแย่มาก เอาว่าแค่มีเสียงก็พอ เกือบทั้งหมดเป็น วิทยุ-เทป ไฮเพาเวอร์ (มีภาคขยายเสียงในตัว) กับลำโพง 1 คู่ ภาคขยายเสียงของวิทยุจะเป็นแค่ 2CH (ซ้าย,ขวา) กำลังขับแค่ 7 วัตต์/ข้าง

          จากนั้นอีกประมาณ 10 ปีเริ่มเพิ่มภาคขยายของวิทยุเป็น 4CH (ซ้าย,ขวา...,หน้า) (ซ้าย,ขวา…,หลัง) ลำโพงให้มา 2 คู่ กำลังขับเขยิบเป็นประมาณ 15 – 25 วัตต์/ข้าง สำหรับรถค่ายยุโรปรุ่นแพงๆจะพ่วงตู้เล่นแผ่น CD 6 แผ่นมาด้วย

          จนเมื่อประมาณ 10 – 12 ปีมานี้เองที่ให้วิทยุ-CD ไฮเพาเวอร์มา โดยมีกำลังขับ 35 – 45 วัตต์/ข้าง (4CH) ลำโพง 2 คู่และตู้ CD เริ่มหายไป สำหรับรถค่ายยุโรปราคาแพงก็อาจยังมีตู้ CD 6 แผ่นมาให้ หรือ เพิ่มตัวขยายเสียงภายนอก (POWER AMP)มาให้

          จนล่าสุด รถค่ายยุโรปแพงๆ เครื่องเสียงจะเป็นระบบไบ-แอมป์ มีวิทยุ CD (อาจเล่นได้ 6 แผ่นในตัว) เพาเวอร์แอมป์ ขับลำโพงเสียงกลาง 2 คู่ (หน้า,หลัง) และขับซับวูฟเฟอร์ ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นก็มักเป็นวิทยุ-CD 2 DIN เล่นเทปได้ด้วย แต่ยัง ไม่ถึงไบ-แอมป์

          ในช่วงที่เริ่มให้วิทยุ-CD ไฮเพาเวอร์มาถือว่า สุ้มเสียงพอจะครบทั้งทุ้ม,กลาง,แหลม แต่ทุ้มยังไม่ลงลึกสุด ยังออกแข็งอยู่บ้าง กลางยังไม่โปร่งพลิ้วนัก แหลมยังไม่สดใสกรุ๊งกริ๊งสุดๆ การแยกมิติเสียงยังแย่อยู่ ความเป็นดนตรี มีวิญญาณยังมีน้อยมาก ฟังกันตูมตามไปตามเรื่องตามราว และล่าสุด เริ่มดีขึ้นจนได้ประมาณ 75% ของระดับไฮเอนด์

          เป็นเรื่องน่าคิดที่รถค่ายยุโรปเอง ถ้าไม่ใช่รุ่นสูงสุดหรือเกือบสุดคุณภาพของเครื่องเสียงกลับสู้รถจากค่ายญี่ปุ่นที่ประกอบในนี้ไม่ได้

          พูดโดยรวมๆแล้วเครื่องเสียงที่ติดมากับรถ ยังสู้การซื้อติดเองทีหลังโดยร้านติดตั้งฝีมือดีๆไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นร้านที่ติดตั้งเนี้ยบสุดๆระดับพระกาฬประเภทสุดยอด 1 ใน 5 ของประเทศไทย คุณภาพเสียง ความไพเราะน่าฟัง มิติเสียง บรรยากาศกินขาดที่ติดมากับรถทุกคัน ไม่ว่ารถคันนั้นจะแพงลิบลิ่วขนาดไหน พวกเราอาจคิดว่าพูดเกินไปหรือเปล่า ก็ต้องขอบอกว่าใครได้ฟังแล้วก็ช็อคได้ง่ายๆ มันก็ควรอยู่ ปกติถ้าติดตั้งกันชุ่ยๆ วิทยุ-CD  1 เครื่องบวกลำโพง 1 คู่ 2 – 3 ชั่วโมงก็เสร็จ (สักแต่ว่าดัง อาจสู้ติดมากับรถดีๆไม่ได้) แต่ถ้าติดเนี้ยบๆละเอียด พิถีพิถัน จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงถึง 9 ชั่วโมง เนี้ยบเหยียบเมฆก็ 5 วัน (ครับ 5 วัน) ค่าติดตั้งต่างหาก 5 พันบาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยกับรถที่ติดเครื่องเสียงมาจากโรงงาน ซึ่งการติดตั้งเครื่องเสียงนับกันเป็นแค่นาที!

กรณีของรถมือ 2 (SECOND HAND) หรือ รถเก่า (USED CAR)

          เครื่องสียงที่ติดมา มีทั้งติดมาจากโรงงานรถ ติดเพิ่ม จนถึงยกชุดติดใหม่หมด พวกนี้น่าสนใจแค่ไหน   กรณีติดมาจากโรงงานก็เป็นกรณีเดียวกับที่พูดมาแล้ว ก็เหลือติดเพิ่ม,ยกชุด หรือ ที่มักปฏิบัติคือ เจ้าของรถจะยกชุดเก่าออกเก็บไว้ลงคันใหม่และหาวิทยุ,ลำโพงถูกๆติดเข้าไปแทน ซึ่งกรณีหลังนี้เป็นอันว่าต้องยกทิ้งอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึง

เรามาพิจารณาไล่ไปทีละตัวว่าจะออกหมู่หรือจ่าอย่างไร (ของเก่าทั้งหมด)

          วิทยุ-เทป ไม่น่าเอาไว้เลย เพราะส่วนใหญ่ระบบเล่นเทปร่อแร่หมดแล้ว ไม่ว่าหัวเทปสึกเป็นร่อง,ลูกยางแข็งลื่น,สายพาน (ถ้ามี)หมดอายุ,มอเตอร์เสื่อมไปเยอะแล้ว จะดีอย่างเดียวคือ สังเกตว่าพวกวิทยุ-เทปซึ่งไม่มีวงจรดิจิตอลทั้งหลายมักให้การรับวิทยุที่ดีกว่า เวทีเสียงกว้างกว่า สุ้มเสียงมีวิญญาณ เป็นธรรมชาติกว่า ความกังวายพลิ้วกว่า ยิ่งถ้าเป็นแบบเข็มชี้ความถี่ยิ่งดีขึ้นไปอีก น่าฟังมาก ใครที่เน้นการฟังภาควิทยุละก็ไม่ผิดหวัง

          ถึงเป็นวิทยุ-เทปที่ซื้อตู้เล่น CD มาพ่วงได้ ก็จะพบว่าวงจรถอดเสียงดิจิตอลเป็นอนาล็อกของตู้ (วงจร DAC) มักสู้ที่ มากับวิทยุ-CD 1 แผ่น รุ่นใหม่ๆล่าสุดไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นวิทยุ-เทปที่พ่วงตู้ CD ได้ของรถค่ายยุโรป ตัวตู้จะแพงลิบอย่างไม่น่าเชื่อ บางทีถึง 2 หมื่นบาท (พวกรถยุโรปแพงๆ) ขณะที่ตู้ CD ค่ายญี่ปุ่นที่ซื้อเพิ่ม ราคาไม่กี่พันบาทแล้ว

          วิทยุ-CD 1 แผ่น หรือ วิทยุ-DVD ต้องทราบก่อนว่าปัจจุบันเครื่องพวกนี้ทางโรงงานจะทำมาให้มีอายุการใช้งานแค่ 14 – 18 เดือนพอให้พ้นช่วงประกัน 12 เดือน จากนั้นจะเริ่มรวน จุกจิก ถึงซ่อมแล้วก็มักไม่หายขาด อย่างเก่งใช้อย่างถนอมก็ 2 ปี (24 เดือน) ดังนั้น รถเก่าที่ติดวิทยุ-CD ,วิทยุ-DVD มา ถ้าเป็นวิทยุรุ่นอายุเกิน 1 ปีก็ต้องระวังแล้ว ปัจจุบันวิทยุ-CD (DVD) รุ่นใหม่ๆถ้าเลือกเป็นมีสิทธิ์ให้เสียงดีกว่ารุ่นเก่า ลูกเล่นดีกว่า แถมราคาเท่ากันหรือถูกกว่า

          ลำโพงที่ติดมากับรถเก่า นี่ยิ่งแล้วใหญ่ อย่าลืมว่าบ้านเราเป็นประเทศร้อน ขึ้นหน้าร้อนก็ร้อนจัดมาก พวกกรวยลำโพงโดนแดดที่มีรังสีอุลตร้าไวโอเลตนานๆเข้ามันก็กรอบหมด ต่อให้เป็นกรวยพลาสติกไม่ว่าไฟเบอร์,เคฟร่า,โปลี่โพไพลีน เจอแดดเมืองไทย ฝุ่นคราบน้ำมัน มันก็เสื่อมโทรมหมด แม่เหล็กลำโพงเองโดนร้อนมากๆอบขนาดอุณหภูมิ 38 – 42 องศา C มันก็เสื่อมหมด

          จอภาพ LCD ยิ่งไม่น่าสนใจ อย่าลืมว่าปัจจุบันจอภาพ LCD ราคาถูกลงมากๆ ขณะที่คุณภาพดีขึ้นตลอดเวลา อีกทั้ง จอ LCD มีโอกาสเสื่อมเร็วมากในรถทั้งจากสภาวะแวดล้อม,ความร้อน,การใช้งานที่เร่งแสงสู้แสงภายนอกล้วนบั่นทอน ให้มันโทรมได้อย่างเหลือเชื่อ

          สายต่างๆ ถ้าใช้สายดีก็พอว่า แต่มักใช้สายแถม,สายถูก ซึ่งฉนวนกรอบหมดแล้ว ทองแดงก็เกิดสนิมกินเข้าไปในเนื้อใน คุณภาพเสียงย่อมแย่ลงและยังเสี่ยงกับความปลอดภัย (ลัดวงจรกับตัวถังรถเพราะฉนวนปริแตก,ร่อนหลุด)

          เพาเวอร์แอมป์,ปรีแอมป์ เป็น 2 สิ่งที่พอเอามาใช้ใหม่ได้ แต่ก็ต้องลองฟังเสียงดูว่าคุณภาพยังดีไหม โดยเฉพาะเพาเวอร์แอมป์รถยนต์มักร้อนจัดมากๆ การติดตั้งก็มักอยู่ในมุมอับ (เช่น ใต้เบาะนั่ง) ดีหน่อยก็ในกระโปรงหลังรถถ้าเป็นยี่ห้อดี ครีบระบายความร้อนใหญ่พอควรก็พอจะหวังได้ว่า อะไหล่ภายในไม่ได้ถูกย่างจนเพี้ยนไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามมีข้อสังวรอย่างมากคือ

          ถ้ารถเก่านั้น ถูกทิ้งไม่ได้ใช้งานครึ่งปีหรือหนึ่งปีขึ้นไปหรือนานกว่านั้นพวกเครื่องเสียงจะมีปัญหา ถ้ามันเป็นของใหม่ไม่เคยใช้เลยเก็บไว้เป็นปีๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้ามันถูกใช้ประจำอยู่และหยุดการใช้ไปนานๆพวกตัวเก็บประจุ (CAPACITOR)ที่มีเป็นร้อยตัวในปรีแอมป์,เพาเวอร์แอมป์,วิทยุ หรือแม้แต่วงจรแบ่งเสียงของระบบลำโพง มันจะฝ่อ,แห้ง ค่าผิดเพี้ยนไปหมด เสียงจะบาง,แห้ง,แข็งกร้าว หาความเป็นดนตรีไม่ได้ ทุ้มแข็ง,ห้วน,กลางกระด้าง,แหลมหุบไม่สดใส,มิติฟุ้ง,แบน สวิงเสียงไม่ขึ้นถ้าเก็บไว้นานมากๆเผลอๆเอามาใช้ก็พังเลย

          อีกกรณีคือ   พฤติกรรมการเล่นของเจ้าของเก่า เล่นแบบทะนุถนอมหรือเล่นแบบโหดๆอัดลูกเดียว แถมโหลดรถเตี้ย วิ่งเร็ว ไม่สนใจว่าจะกระแทกกลไกการเล่นแผ่น และลำโพงคลอนตัวขนาดไหน ถ้าสืบให้ดีๆจะพบว่ามักเป็นกับพวกรถวิ่ง และมักมีการซ่อมเครื่องเสียงมาแล้วด้วย

          กรณีสุดท้าย  เป็นรถเก่าจากนอก ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่า รถนั้นถูกใช้ใกล้ชายทะเลหรือไม่ ซึ่งไอเค็มจะทำลายกรวยดอกลำโพงให้ผุกร่อนรวมทั้งขดลวดวอยส์คอยล์ด้วย มันจะก่อให้เกิดสนิมเกลือในแผงวงจรของอุปกรณ์อีเล็กโทรนิกส์ ไม่เฉพาะเครื่องเสียง ผลคือ เหมือนเป็นมะเร็งกินเนื้อใน มันจะรวน ซ่อมเท่าไรก็ไม่หายขาด อีกทั้งคุณภาพเสียงก็แย่ลง จึงต้องตระหนักอย่างมาก บ้านเราก็รถแถวๆจังหวัดชายทะเลมีตั้งแต่แถวใกล้ๆคือ บางขุนเทียน ไล่ไปถึงภาคตะวันออก ตะวันตก

สรุป

          จะเห็นว่า โดยรวมๆแล้วการถอดเครื่องเสียงที่มากับรถออก ไม่ว่ารถใหม่หรือรถเก่า แล้วพิจารณาดีๆ หาใหม่ติดเข้าไปอย่างเนี้ยบๆจะให้คุณภาพที่ดีกว่าอย่างแน่นอน อีกทั้งหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามบานปลายทีหลัง ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องได้รับคำปรึกษาจากผู้ที่รู้จริง ร้านติดตั้งที่มีจรรยาบรรณและฝีมือจริงไม่อย่างนั้นจะเข้าข่าย หนีเสือปะจระเข้แน่ๆ

www.maitreeav.com

www.maitreeav.com
สำนักงาน : 313/129 ซ. เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 081-5500269 , 099-569-6459