ตัวช่วย...กับการทดสอบ

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

การทดสอบที่มีการใช้ตัวช่วยเต็มไปหมดทั้งห้องฟัง น่าจะทำให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อนได้...จริงหรือไม่

                จริง...ถ้าตัวช่วยเหล่านั้น ไม่เป็นกลางอย่างแท้จริง มีบุคลิกส่วนตัวสูง บ่อยๆ ที่ตัวช่วยราคาแพงๆ กลับแสดงบุคลิกของตัวเองอย่างรุนแรงจนไปบิดเบือน บดบัง บุคลิกของผลิตภัณฑ์ที่นำมาทดสอบ เช่น สายลำโพงชุดหนึ่งหลายๆ หมื่นบาท ถึงเป็นแสนเป็นล้าน สายเสียงหลายแสนบาท สายไฟเส้นหนึ่ง 3-4 หมื่นบาทขึ้นไป

                แย่หน่อยที่ตัวช่วยที่ให้บุคลิกที่เป็นกลาง ค่อนข้างหายากในท้องตลาด แถมขายยาก เพราะมันไม่กระชากหู เตะหู เหมือนสายที่แก่กล้าในเรื่องบุคลิก เวลาคนขายจะขายตัวช่วยสีสันอะไร มักปรับชุดจนเกิดการขาดแคลนบุคลิกบางอย่าง และได้สีสันบุคลิกของตัวช่วยนั้นๆ มาชดเชยพอดี เวลาเปลี่ยนเอาตัวช่วยอื่น โดยเฉพาะตัวช่วยที่เป็นกลางใส่เข้าไป จึงแพ้วันยังค่ำ ขายได้แต่ตัวช่วยที่เสริมแต่ง

                เป็นความโชคดีอย่างมาก ที่ใครสักคนจะได้เริ่มด้วยชุดที่เป็นกลางจริงๆ มันต้องผ่านการลองสลับ อย่างหลากหลาย ทั้งอุปกรณ์หลักและเครื่องเคียงต่างๆ อย่างโชกโชน ผ่านการฟังอย่างสุดพิถีพิถัน เหนือสิ่งอื่นใด การปรับจูนชุดและหูระดับเทพจริงๆ ไม่ง่ายเลยที่ใครสักคนจะได้ชุดที่เป็นกลางจริงๆ

                อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับความจริงอยู่ข้อหนึ่ง แต่ละชุดก็อยู่ภายใต้สิ่งและสภาพแวดลอมที่ต่างๆ กันไป ทั้งการก้องของห้อง (อคูสติก) การถูกรบกวนด้วยสารพัดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในอากาศ (WiFi, มือถือ, PC, โน้ตบุค, Cell Site เครือข่ายมือถือ, หม้อแปลงไฟใหญ่นอกบ้านของการไฟฟ้า, ไฟ AC บ้านที่เต็มไปด้วยหรือ NOISE, ฯลฯ)

                แน่นอนว่า ผลการรบกวนจากลิ่งเหล่านี้ต่อชุดเครื่องเสียงย่อมมีมากน้อย แตกต่างกันไป ไม่ว่าขนาดและลักษณะอาการ ซึ่งมีผลต่อผลลัพธ์การทดสอบ ผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงนั้นๆ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ต่างๆ กันไป ทำให้ผลการทดสอบไม่นิ่ง แปรผันไปได้อย่างมาก จึงจะดีกว่าไหม ถ้าจะมีตัวช่วยที่ช่วยตัดหรือลดปัญหาสิ่งแวดล้อมสารพัดเหล่านี้ ให้เหลือการรบกวนหรือผลเบี่ยงเบนน้อยที่สุด ให้เราเข้าถึง “ตัวตน” ของผลิตภัณฑ์ที่นำมาทดสอบได้จะแจ้งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมเป็นมาตรฐานและสากลมากขึ้น

                ตราบเท่าที่ ตัวช่วย เหล่านั้น เป็นกลางจริงๆ

                อย่าคิดว่าในทางปฏิบัติคงยากจะหาชุดทดสอบ ห้องฟังที่สมบูรณ์แบบอย่างนั้นได้ จะดีกว่าไหมถ้าทดสอบกับสภาพแวดล้อมพื้นๆ อย่างชาวบ้านทั่วๆ ไป

                ก็ต้องถามว่า แล้วผลที่ได้จะมีความหมายอะไร ถ้าสิ่งแวดล้อมรบกวนบั่นทอนจนไม่เห็นตัวตนแท้จริงของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เหมือนจับปูใส่กระด้ง

                ข้อเสียอย่างเดียวของตัวช่วยที่เป็นกลางคือ มันบดบังความสามารถของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่า จะอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมได้มากน้อยแค่ไหน แต่เราก็มักพบว่า ผลิตภัณฑ์ที่ราคาสูงลิบ มักหัวแข็งต่อการถูกรบกวนได้ดีกว่า แต่ผลิตภัณฑ์พวกนี้ก็มักพ้นไปจากความใจกล้าที่ผู้นำเข้าจะยินยอมให้มาทดสอบ เอะอะก็จะให้ไปทดสอบที่โชว์รูมของบริษัทฯ ซึ่งอย่างที่ว่า ผู้ทดสอบประเมินบุคลิกส่วนอื่นๆ ของชุดที่ฟังนั้นไม่ได้เลย ไม่คุ้นด้วยประการทั้งปวง ผลทดสอบจึงแทบไม่ได้บอกอะไรเราเลยถึงผลิตภัณฑ์โดดๆ ตัวนั้น

                อีกอย่างก็คือ นักทดสอบบ้านเราเกือบทั้งหมด ควักกระเป๋าตัวเองกับชุดทดสอบหลักประจำ จึงมีน้อยมากๆ ที่จะมีปัญญาทุ่มกับตัวช่วยที่แพงลิบได้สักกี่มากน้อย (นอกจากหยิบยืมมาใช้ชั่วคราว หรือทดสอบติดพันเหลื่อมกันอยู่)

                นักทดสอบบ้านเราน่าสงสารที่สุด เกือบทั้งหมด ทำด้วยใจ ถามว่าคุ้มไหม เลิกพูดได้เลย ทุกท่านก็พยายามทำอย่างดีที่สุดเท่าที่เงื่อนไขแต่ละคนจะอำนวยและเป็นไปได้

                ดีที่สุดคือ ควรหาอ่านบททดสอบผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกันจากนักทดสอบหลายๆ ท่าน หลากหลายเงื่อนไขให้มากที่สุดทั้งไทยและเทศ พิจารณาด้วยเหตุและผล แล้วตัดสินใจสรุปด้วยตัวของท่านเอง