000
ปรึกษาเครื่องเสียง อจ. ไมตรี โทร 099-569-6459    
 
บอร์ดพูดคุย, ซื้อ-ขายเครื่องเสียง
>> audio-teams.com
>> noom-hifi.com
>> wijitboonchoo.com
>> hifi55.com  
>> sk-audiophile.com
>> htg2.net
นิตยสารเครื่องเสียง
>> what Hi-Fi? Thailand
>> The Wave
>> Audiophile-Videophile
>> gm2000.com
>> The Stereo
ร้านค้าเครื่องเสียง
>> Piyanas Electric
>> KS Sons Group
>> Conice (บ้านทวาทศิน)
>> อัศวโสภณ
>> munkonggadget.com
>> bkkaudio.com
 
ปรับขนาดตัวหนังสือ เช่น 15, 16, 18, 20, + + / ยกเลิกใส่ 0 :

หมวดหมู่ > บทความ > เครื่องเสียงบ้าน > ไดนามิคเรนจ์ ขาดไปก็เสียงเหี่ยว ( ตอน 1 )
วันที่ : 12/10/2020
3,853 views

" ไดนามิคเรนจ์ ขาดไปก็เสียงเหี่ยว ( ตอน 1 ) "

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ
 

ในการแสดงสด สิ่งสำคัญหนึ่ง ที่ชุดเครื่องเสียงไหนๆก็ให้ไม่ได้ นั่นคือ ไดนามิคเรนจ์ (dynamic range) คือการสวิงเสียงจากค่อยสุดไปดังสุด วัดเป็นตัวเลขว่า กี่ dB   เสียงเครื่องบินโดยสาร 747 บินข้ามหัวที่ทางวิ่งในสนามบิน ดังถึง 120 dB

เสียงจากการออกอากาศFM Stereo  หรือเทปคาสเซท และ จานเสียง  การสวิงก็คงสัก 60-70 dB ( จานเสียงที่มีการสึกของร่องเสียง ค่านี้จะลดลงเรื่อยๆ)
จาก ระบบเทป Open reel ก็คง 75 dB
จาก ระบบดิจิตอล  เช่นCD และ การ Streamjng ก็น่าจะ 90-100 dB   จากแผ่น SACD 120 dB
จากโรงหนัง ช่วงแอ๊คชั่นมันส์ๆ คงอัดกันถึง 100dB
จากเครื่องเสียงรถที่ติดตั้งกันเต็มแม๊ค 150 dB ที่แข่งความดังกันแบบชั่วแวบ วัดกันในตู้เบส ระดับแชมป์โลกคนไทย ได้ 185 dB ว่ากันว่า แรงอัดมหาศาล  ทำแผ่นกระดาษ A4 ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย !!!
 แต่จากการแสดงสด ยิ่งเพลงแนวตูมตาม ไม่หนี 120 dB ขึ้นไป แล้วแต่ว่า ระบบเสียงมหึมาขนาดไหน
 ระดับความดังสูงสุด วัดเป็น ตัวเลขdB
  ระดับการสวิงจากค่อยสุด( วัดระดับความดังได้ สมมุติ 30 dB บ้านที่เงียบสงบมาก)  ไป(ระดับความดังสูงสุด 90dB ในห้องบ้านทั่วไป) เอา 90-30 =60 dB
ก็พูดว่า  ขอการสวิงเสียง(dynamic range) สัก60 dB ถ้าเราทำห้องให้เงียบแค่ไหน เช่น จาก30เป็น20dB ค่า dynamic range ก็จะเขยิบขึ้นเป็น 70dB  เป็นค่าที่ดีที่สุดของห้องฟังเพลง ดูหนังทั่วไป (ระบบแอร์แบบท่อ) ซึ่งห่างไกลจากการแสดงสดมาก การบุเก็บเสียงก้อง กวน ในห้อง ก็จะได้ตัวเลขล่างลดลง แต่ตัวเลขด้านบนก็ลดลงด้วย ต้องจัดสมดุลย์กันดีๆ สำหรับการฟังเพลงทั่วไป ห้องทั่วไป ระบบเสียงที่ให้ dynamic range สัก 65-70 dB ก็น่าจะโอเคแล้ว

ในการฟังเพลงที่บ้าน ทราบไหมว่า ช่วงที่ดนตรีค่อยมากๆ ภาคขยายเสียง(แอมป์)อาจใช้กำลังขับแค่ 0.3 วัตต์(w) แต่ในช่วงโหมสวิงดังสุด อาจต้องใช้กำลังถึงเกีอบ 1,000 w
ยิ่งใครที่ชอบเปิดดัง แต่งทุ้มแหลมเต็มที่ การสวิงสูงสุดจะยิ่งกว่านี้มาก
    โชคร้าย ที่แทบหาแอมป์ หรือลำโพง ที่สวิงเสียงได้กว้างมโหฬารขนาดนั้นไม่ได้
    โชคดีที่ แม้แอมป์และลำโพงต้องขับเกินกำลังมาก แต่ก็ในช่วงสวิงเป็นเสี้ยววินาที มันจึงยังไม่พังเสียก่อน เป็นแต่ว่า พวกมันจะปล่อยความเพี้ยนออกมา เช่นเสียงแจ๋น สกปรกกระด้าง แสบแก้วหู หรือ เสียงอั้น ตื้อ การตอบสนองความถี่เสียงเพี้ยน ทรวดทรงนักร้อง ชิ้นดนตรี
บิดเบี้ยว วอกแวก ไม่นิ่ง เวทีเสียง ฟุ้ง ไร้ขอบเขต มีม่านหมอกในเวทีเสียง อาจถึงขนาดขุ่น ไม่โปร่งทะลุ ไม่สงัดสงบ เสียงโดยรวมเหมือนมีบุคคลิคเดียวตลอด( mono tone)ทั้งสุ้มเสียง มิติเสียง เวทีเสียง บรรยากาศ
   dynamic range ที่เพี้ยน จะชักนำความเพี้ยนอื่นๆมาเป็นขโยงทุกรูปแบบได้แก่
  - dynamic contrast
  - Total Harmonic distor
     tion
   - Inter Modulation dis
   - Frequency response
   - TIM distortion
ความเพี้ยนเหล่านี้ เราได้ยินหมดแหละ เป็นแต่ว่าเราคุ้นเคยชิน จนลืมคิดถึง
นอกจากว่า  เมื่อไรที่เราได้ยินเสียงที่ปลอดจากความเพี้ยนเหล่านี้ นั่นแหละ เราจึงจะรู้สึกว่า ฟังสะบายหู สมจริงมีรายละเอียดดี มีวิญญาณ สมจริง อารมณ์หลากหลาย ฟังเพลิน ไม่น่าเบื่อ

www.maitreeav.com

www.maitreeav.com
สำนักงาน : 313/129 ซ. เคหะร่มเกล้า 64 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 081-5500269 , 099-569-6459