|
"ถึงคราววงการเครื่องเสียงจะล้มครืน" โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ ในอดีตเมื่อ 50 ปีมาแล้ว ผมข้องใจมากว่า ทำอย่างไรเราจึงจะสร้างเวทีเสียง จากการฟังด้วยหูฟัง ให้ได้เหมือนฟังจากลำโพงในห้องฟัง ผมหมกมุ่นกับการไขว่คว้าแสวงหาวงจรประเภทสร้างหรือจำลองสนามเสียง เพื่อให้ได้บรรยากาศการฟังลำโพงจากการฟังหูฟังให้ได้ ผมฝันและหมกมุ่นความตั้งใจนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ปกติหูฟังจะให้เวทีเสียงตื้นมาก ห่างหน้าเราออกไปแค่ 1 เมตร เป็นอย่างมาก แถม "ทั้งวง รวมนักร้อง" เข้าแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ไม่มีลำดับตื้นลึกไล่จากหน้าวงไปหลังวง หูฟังบางตัวโดยเฉพาะแบบครอบหู เวทีเสียงมักจะ อยู่ในหัวเรา หรือลอยโค้งเหนือหัวเรา แทบไม่มีอยู่หน้าเราได้ จากประสบการณ์ การฟังหูฟังหลากหลายระบบ ร่วมร้อยตัวตลอดการฟัง 40 ปีของผม นักเล่นจึงสบประมาทว่า หูฟัง จะไม่มีว้นมาแทนลำโพงได้เลย แล้ววันหนี่งก็เกิดเหตุ การณ์ไม่คาดฝัน ตอนนั้นหูฟัง SONY E 484แบบแปะรูหู(ear bud)โด่งดังมาก สุ้มเสียงชัดเป็นธรรมชาติสุดในสมัยนั้น แต่เสียงทุ้มยังลงได้ต่ำแค่ 100Hz และปลายแหลมสุดยังขึ้นไปได้แค่18KHz ผมอยากให้ทุ้มลงได้ลึกกว่าและมีน้ำหนักดีกว่า รวมทั้งปลายแหลมที่ควรไปได้ถึง25KHz เพื่อเสียงที่พริ้ว (เสียงลมหาย ใจของตัวโน๊ตดีขึ้น airy) ผมจึงฟังจากเครื่องเล่น CD NO.39 Mark Levinson(300,000 บาท) ต่อผ่านตัวแต่งเสียง( EQ) LUXMAN SG12 ( หนึ่งในอนาลอคEQ ที่เสียงดีที่สุดในโลก 12ช่วงความถี่ราคา 4 หมื่นกว่าบาท เมื่อ50ปีที่แล้ว ผมยกเสียงที่ความถี่ต่ำสุด 25Hz(ฟังไม่ออกว่าดีขึ้น หูฟังคงลงไปไม่ถึงแน่) ยกปลายความถี่สูงสุด (น่าจะที่25KHz ก็มีผลนิดเดียวแทบไม่รู้สึก) จากขาออกLUXMAN ไปเข้าตัวขยายเสียงหูฟัง(ของอเมริกา กล่องไม่ใหญ่)รุ่นภาคจ่ายไฟใหญ่พิเศษ ราคา หมื่นกว่าบาท แล้วมาเข้า SONY E 484 (ear bud) ในวินาทีที่ผมเอา 484 มาใส่หู ผมแทบช๊อค เพราะสุ้มเสียงเหมือนมาจากลำ โพงMonitorAudio Silver 7 ลำโพงวางหิ้งราคา 4-5 หมื่นที่ผมเอามาทดสอบ และวางห่างออกไปร่วม 4 เมตรปลายห้อง( ห้องผมบุด้วยวัสดุซับเสียง SONEX อย่างดีไม่มีก้อง หมดไปอีก 300,000 บาท) ผมงงมาก และไม่แน่ใจ ลองฟังจากหูฟังแล้วเอาหูฟังออก เสียงเหมือนมาจากSILVER 7 ที่อยู่ " ตรงนั้น" ทั้ง2กรณื (ลำโพง VS หูฟัง) เหมือนผีหลอกเลย เหตุการณ์วันนั้น ทำให้ผมมั่นใจว่า เราสามรถฟังเสียงจากหูฟัง(ควรใช้ แบบสอดเข้ารูหู หรือ in ear จะได้เปรียบกว่าแบบ ear bud ทั้งสุ้มเสียงและมิติ เวทีเสียง ) และเป็นไปได้ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนฟังจากลำโพง " ในห้องฟัง" ได้แน่นอน โดยไม่ต้องใช้วงจรช่วยใดๆเลย( หูฟังต้องดีพอด้วย) ประเด็นก็คือ คุณต้องทำ " ทุกอย่าง" ให้ลงตัวอย่างสุดยอดจริงๆ ไล่ตั้งแต่ขาเข้าถึงขาออก และ ตัวหูฟังเอง ต้องแม่นเรื่องสุ้มเสียงครบ) , phase, impedance matching, การรบกวนของ RF, กำลังขับ, ความเสถียร, Linearity ทุกกรณี พูดง่ายๆ ต้องใส่ความรู้เกี่ยวกับเสียงและการออกแบบ " ทุกอย่าง" และการฟังเป็นจูนเป็นระดับเทพ ลงไป "จะเกิดอะไรขี้น" ถ้ามีเครื่องขยายเสียงหูฟัง/หูฟัง ที่ทำได้ดังกล่าวออกมาขายจริง วงการเครื่องเสียงจะล้มครืนเกือบทั้งแผง ( ปรี เพาเวอร์แอมป์ สายต่างๆ ลำโพง อุปกรณ์เสริมมากกว่าครึ่ง เหลือแต่แหล่งรายการ แต่ถ้าคนหันไปใช้จากเวบไซด์ แหล่งรายการก็อาจจบเช่นกัน ตัดปัญหาเรื่องห้องฟัง, ตัดปัญหารบกวนชาวบ้าน(ตรงห้องนี่จ่ายอีกเป็นแสน เป็นล้าน) ตัดปัญหาเสียง แอร์ พัดลมระบายอากาศ (สูบบุหรี่) ถ้าชุดแอมป์หูฟัง พร้อมหูฟัง ราคา 90,000 บาท แต่ให้ "การฟัง" ความรู้สึกทุกแง่มุมเทียบเคียงได้กับชุดเครื่องเสียง 1-10 ล้านบาทในห้องฟัง 1 ล้านบาท อะไรจะเกิดขึ้น ถ้ายังนึกไม่ออก ลองซื้อหูฟัง ThreeFriends มาเสียบฟังจากโทรมือถือดีๆระดับหมื่นขี้นไป ฟังจาก YouTube เวบเพลง แล้วคุณจะเห็นภาพอนาคตอย่างที่ผมกล่าวจริงๆ www.maitreeav.com |