|
"ข้อดีของการเล่นจานเสียง" โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ เนื่องจากระบบการเล่นจานเสียงประกอบด้วยหลายๆส่วนด้วยกันได้แก่ จะเห็นว่ามีองค์ประกอบอย่างน้อยถึง 14 ข้อที่มีผลต่อสุ้มเสียง มิติเสียง แบบหน้ามือหลังมือ จึงอาจทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสุ้มเสียง สไตล์เสียงที่ถูกหูได้(ถูกใจ แต่อาจไม่ถูกต้องตรงมาสเตอร์ที่เขาทำมา ) หรือ ช่วยชดเชยบางจุดที่อ่อนแอของชุดเครื่องเสียงในส่วนอื่นๆ (เอาความพิการไปแก้ความพิการ) ไม่แปลกที่มีการผลิตอุปกรณ์ทั้ง 14 ข้อ อย่างหลากหลายมาก นักเล่นกระเป๋าหนักบางคน ใช้เครื่องเล่นจานเสียงมากกว่า 1 เครื่องหรือเครื่องเดียว 4 แขน 4 หัว เพื่อเลือกเล่นสไตล์เสียงได้ 4 แบบ หรือ มีเครื่องขยายสัญญาณหัวเข็มมากกว่า 1 หรือขยันปรับตัวแปรของภาคขยายนี้ให้ได้เสียงที่ถูกหูกับเพลงหรืออัลบั้มนั้นๆ ( ที่จริงหาอนาลอคEQดีๆสักตัวมาคอยปรับ น่าจะง่ายกว่า ดีกว่า ประหยัดกว่าเยอะๆ ไม่ขี่ช้างจับตักกแตน) แต่บางคนบอก มันสนุกดี ได้ลองโน่นนี่(อย่างไม่รู้จบ) แต่สิ่งหนึ่งของการเล่นจานเสียงที่ปฏิเสธยาก คือ แล้วเสียงจริงตัวตนจริงของอัลบั้มนั้นอยู่ตรงไหน เป็นอย่างไร เพราะมีตัวแปรถึง 14 ข้อดังกล่าวแล้ว ! ท้ายนี้ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง เมื่อประมาณ 30 ปีมาแล้ว ผมไปงานเครื่องเสียง Japan Audio Fair ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีโอกาสฟังเครื่องเล่นCD ต้นแบบของPIONEER รุ่นเรือธงใหม่ตัวถังทองชมพู ราคาน่าจะร่วมแสนบาท (ถ้าวางขายจริง )ใช้DAC 18 bit สุ่ม 96KHz ( ไม่จำเป็นต้อง 24 หรือ 32 bit สุ่ม 182หรือ 364 KHz ที่ฮิตกันต่อมา แล้ว ออกทะเลเลย) ขณะนั้น ยี่ห้ออื่นแค่ 16 bit สุ่ม48.6 KHz ) ฟังด้วยหูฟัง เป็นเพลงแจ๊สเย็นๆ น้ำเสียง มิติ ที่ได้สมจริงอย่างยิ่ง เรียกว่า ทิ้งทั้งจานเสียง และ เทปม้วนเปิด(open reel )ขาดกระจุย ไม่เห็นฝุ่น ไม่มีทั้งความเป็นดิจิตอลและอนาลอค เหมือนฟังการแสดงสดเลย www.maitreeav.com |