"เราต้องการจอกว้างเท่าไรในการดูหนัง "
โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ
มีการปลุกปลอบใจกันตลอดมาโดยเฉพาะการดูหนังในโรงภาพยนต์ว่า ยิ่่งจอกว้าง ดูหนังยิ่งสมจริง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง
มีการขยายขนาดจอ(และภาพ) จาก 35 มม. ( 4:3)ไปเป็น ซีเนมาสโคป ( 16:9) แล้วก็ Todd AO ( 21:9), Panavision 70 mm . จนถึง IMAX ที่ขยายภาพ, จอ ด้านแนวตั้งของTodd AO ขึ้นไปชนเพดานและด้านล่างเกือบถึงพื้น
แต่ก่อนหน้านี้ มีระบบที่เรียกว่า CINERAMA แทรกเข้ามาอยู่ประมาณ 10ปีแล้วก็จากไป นับเป็นระบบที่บ้าเลือดที่สุดในปะวัติศาสตร์ของภาพยนต์ คือ ใน 1 ภาพ ฉายด้วยเครื่องฉาย 3 เครื่อง 3 จอ พร้อมๆกันภาพต่อติดกัน ! ทำให้ได้ภาพมโหฬารมาก สูงตั้งแต่เพดานโรงฉาย ไล่ต่ำลงจนชนกับพื้นโรง ! ระบบเสียงอนาลอค รอบทิศทาง ( บันทึกลงแผ่นฟิลม์ ทุกร่องเสียง ) ภาพที่ได้ ตรงรอยต่อจากเครื่องฉายหนึ่งไปอีกเครื่องจะกระเพื่อมเป็นคลื่นนิดหนึ่งช่วงแคบๆ ไม่ถึงกับน่าเกลียดมากมายอะไร ยังดูได้เพลินสะใจ บ้านเราฉายที่เดียวโรงหนังอินทรา
ประตูน้ำ เรื่องที่ผมได้มีโอกาสดู เช่น การากระตัว (การระเบิดของภูเขาไฟที่มหึมาที่สุดในโลก) , รถถังประจันบาน, มิดเวย์กับโตราโตรา ( ไม่ได้ดู) แล้วระบบนี้ก็ล้มหายตายจากไป เพราะ แพง และยุ่งยากมากในการถ่ายทำและฉาย( ระบบล่าสุดที่คุยว่า ภาพกว้าง 270 องศา ไม่ต้องมาเทียบ อารมณ์ ความสมจริงคนละเรื่อง แบบใหม่ 270 องศา ใช้การเอา 3 ผนัง 3 จอมาต่อๆกันเป็นภาพเดียว (ผนังซ้าย ผนังกลาง ผนังขวา ) มีรอยหักมุมชัด เพราะคนละผนังกัน ดูยังไงก็หลอกตา จริงๆ แล้ว การมองให้ได้ความสมจริงเป็นธรรมชาติ ภาพที่ปรากฏต่อหน้า ต้องตีโค้งอยู่ในรัศมีขององศามุมมองของสายตาพอดี จะได้ภาพมีทรวดทรง มิติตื้นลึกสมจริงทั่สุด ทำให้ระยะการดู ดีที่สุดที่ต่ำแหน่งระยะเดียว ใกล้หรือไกลกว่านั้นก็ไม่ดี อีกอย่างคือ การจูนระบบเสียงให้ได้เสียงหลุดลอยออกมาจากจอและโอบมาซ้าย มาขวา ก็จะทำให้รู้สึก ว่า ภาพ(จอ) มันกว้างเลยล้นออกไปทางซ้ายและขวาเกินขนาดของจอจริงอยู่แล้ว โดยไม่มีความจำเป็นต้องขยายให้จอใหญ่จริง ตามเลย ( แต่การจูนเสียงระดับเทพอย่างนึ้ผมไม่แน่ใจว่าจะมีโรงไหนทำได้ !!! )