|
ลำโพงฮอร์น...จำเป็นหรือ โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ ลำโพงฮอร์น (horn ) คือลำโพงที่ปากแตรอยู่ข้างหน้า ตัวดอกลำโพงอยู่ภายใน ยิงเสียงทะลุปากแตรออกมา ปัจจุบันปกติปากแตรมักทำด้วยไม้เป็นหลักแต่อดีตมีการทำด้วยเหล็กเช่นกัน ปากแตรนั้นอาจเป็นช่องใหญ่ช่องเดียวปาก เดียวหรือซอยย่อยเป็นหลายปากร่วมเคียงกันโดยใช้ตัวลำโพงเดียวกัน มีเหมือนกันที่เรียงปากแตรติดกันเป็นพวง แต่ละปากมีดอกลำโพงของตัวเอง (เป็น multiple ) ????????? ที่มาของลำโพงฮอร์น ในอดีตที่ภาคขยายเสียงเป็นเครื่องหลอด กำลังขับไม่ถึง 10 วัตต์ การจะให้เสียงดังในทิศทางที่ตัวเองต้องการมากที่สุด ก็ต้องรวบรวมเสียงที่กระจายรอบทิศของดอกลำโพงหนึ่ง ( เป็น 360 องศา ) ซึ่งกว่า 80 เปอร์เซ็นต์สูญเปล่าอย่างสะเปะสะปะโดยมีแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ที่ตรงมายังผู้ฟัง (ไม่ว่าคนเดียวหรือหมู่คน) การใส่ปากแตรเข้าไปที่หน้าดอกลำโพงจะช่วย ?รวบรวม? พลังเสียงทั้งหมดให้ยิงไปในทิศเดียวที่ต้องการจึงได้เสียงที่ดังขึ้นมากเหมือนเราเอามือป้องปากตะโกนย่อมดังและยิงไกลกว่าตะโกนเปล่าๆ ????????? ยุคแรกเมื่อกว่า 50 ปีมาแล้วลำโพงฮอร์นมีการใช้ในบ้าน,ในโรงหนัง,โรงละคร ระบบเสียงสาธารณะบนเวทีกลางแจ้ง ปากแตรมีทั้งยิงตรงหรือทำเป็นงวงโค้งวนตลบเดียวหรือมากกว่า ????????? ลำโพงฮอร์นในปัจจุบัน ทุกวันนี้การใช้ลำโพงฮอร์นน้อยลงมาก เป็นเพราะเครื่องขยายเสียงมีกำลังขับสูงขึ้นมาก กำลังขับ 200 W RMS/ข้าง ที่ 8 โอห์มถือเป็นเรื่องธรรมดา ขนาด 500W หรือ 1000W/ch ก็มีให้เห็น อีกทั้งราคาเครื่อง ขยายก็ถูกลงมากสามารถใช้ตู้ลำโพงปกติธรรมดาเรียงดอกลำโพงหลายๆดอกในแนวตั้ง ทำเป็นตู้ทรงสูงแล้วนำตู้นี้ 2- 3 ตู้มาวางตั้งเอียงทำมุมกัน 2-3 มุมเพื่อยิงเสียงเป็นมุมกว้างเท่าใดก็ได้ (เรียกว่าระบบ phase array ) สามารถเพิ่มจำนวนเครื่อง ขยาย จำนวนลำโพง phase array ได้อย่างไม่รู้จบ อีกทั้งปรับแต่งเปลี่ยนแปลงมุมกระจายเสียงได้คล่องตัว ยืดหยุ่นได้สูงสุด ข้อเสียของลำโพงฮอร์น
ข้อดีของลำโพงฮอร์น
ทำไมบางคนโดยเฉพาะนักเล่นเครื่องเสียงไฮเอนด์จึงยังนิยมชมชอบฮอร์น ????????? น่าจะเป็นเพราะฮอร์นช่วยให้เสียงดังโพล่งขึ้นกว่าปกติในบางช่วงความถี่ เหมือนใส่ตัวช่วยเพิ่มการสวิงเสียงให้กระฉูดยิ่งขึ้น ( expander ) แบบไม่เป็นเส้นตรงๆ ( non-linear ) เสียงจะฟังหลุดลอยพุ่งออกมามากกว่าปกติ ถ้าผู้ออกแบบ เข้าใจเล่นจะทำให้รู้สึกเสียงกระโดดออกมาได้ดี ดูสมจริง ( live ) เหมือนชัดถ้อยชัดคำขึ้น ฟังเผินๆจะเข้าท่าทีเดียว ยิ่งฟังจากจานเสียง ( ที่มักกดการสวิงเสียงไว้ ) หรืออัลบั้ม CD ที่มักกดการสวิงเสียงไว้ ( compressed ) ( พวกเพลงไทยปัจจุบัน ) เพลงเก่าๆสมัย 30-40 ปีย้อนไปในอดีตทั้งเพลงไทย,เพลงฝรั่งทั้งหมดจะกดการสวิงเสียงไว้เพื่อว่าเวลาฟังจากจานเสียงหัวเข็มจะไม่ถูกร่องโยนแรงเกินไปจนหลุดจากร่อง ( ตกร่อง ) แน่นอนว่า ถ้าเอาแม่เทป ( master ) นั้น??????????????????? ( ที่มีการกดการสวิงเสียงไว้ )มาทำแผ่น CD เสียงที่ได้ย่อมถูกกดการสวิงเสียงไว้เช่นกัน เมื่อฟังกับลำโพงปกติที่ไม่ใช้ ฮอร์น เสียงก็จะออกมาอั้นๆตื้อๆตามที่ถูกกดไว้ แต่เมื่อฟังจากลำโพงฮอร์น ( ที่โยนเสียงบางช่วงออกมา โดยเฉพาะเสียงกลางหรือเสียงสูง ) เสียงก็จะโดด หลุดลอยออกมาได้ดีกว่า ( เป็นการเอาความเพี้ยนไปแก้ความเพี้ยนดีๆนี่เอง ) ฟังเป็นตัวๆเป็นชิ้นเป็นอันว่าถ้าฮอร์นทำกับเสียงสูงจะช่วยให้ขอบเสียง,หัวโน้ตคมชัด ชันขึ้น ฟังแล้วเหมือนดีขึ้น เสียงจะเหมือนพุ่ง โปร่งขึ้น ( กับมาสเตอร์ที่ถูกกดไว้นั้น...อย่าลืมประเด็นนี้ ) ????????? ในกรณีที่เจ้าของชุดเล่นกับเครื่องเล่นจานเสียง ซึ่งมีหลายจุดเหลือเกินที่จะทำให้บางช่วงความถี่ ไม่ว่าช่วงแคบๆหรือช่วงกว้างเกิดการสั่นค้าง ( resonance ) โด่งขึ้นมากกว่าปกติ ไม่ว่าโด่งที่ตัวความถี่หลัก ( fundamental ) หรือโด่งที่ความถี่คู่ควบ ( harmonics ) ทั้งหลายและบังเอิญทำให้สุ้มเสียงโดยรวมดีขึ้น โดด ลอย มีตัวตนมากขึ้น เจ้าของชุดก็จะหลงเข้าใจผิดว่า จานเสียงให้เสียงดีกว่าสียงจาก CD? ( ที่ดีมาดีออก เลวมาเลวออก ) ????????? กรณีที่สอง การใช้ลำโพงฮอร์นทำให้เหมือนเสียงกระหึ่มมากขึ้น ( จริงๆคือโฉ่งฉ่างขึ้น ) จึงฟังว่า dynamic ดีขึ้น ฟังมันส์กว่า อีกทั้งการเร่งวอลลูมไม่มาก ความเพี้ยนก็ต่ำกว่า ยอดคลื่นจากภาคขยายเกิดการหัวขาดน้อยลง ( ช่วงแคบลง ) เฉพาะช่วงดังมากๆจึงหัวขาด ( clip ) จึงเหมือนน่าฟังกว่า ฟังสบายหูกว่า รื่นหูกว่า ซึ่งข้อดีนี้ถ้าลำโพง ( ปกติ ) ทนกำลังขับได้สูงหรือภาคขยายมีกำลังขับเหลือเฟือ ปัญหายอดคลื่นหัวขาดก็แทบไม่มีอยู่แล้ว ก็ไม่เสียเปรียบลำโพงแบบฮอร์นแต่อย่างใด ????????? กรณีที่สาม บางเสียงดนตรีการฟังผ่านฮอร์นกับมาสเตอร์อะนาล็อกเก่าที่บันทึกมาคลุมเครือ พอฟังผ่านฮอร์น เสียงก้องบางอย่างจากฮอร์นช่วยผสมให้เสียงเครื่องดนตรีนั้นฟังสมจริงขึ้นก็หลงว่า ฮอร์นเสียงดีกว่า จริงๆเป็นแค่การช่วยเติมแต่งให้มาสเตอร์ที่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่าถ้าเอาฮอร์นนั้นมาฟังกับมาสเตอร์สมัยใหม่ ( เช่นจาก CD ) ที่ไม่ขาดตกบกพร่อง เสียงเสริมจากฮอร์นก็จะเป็นส่วนเกินจริง ทำให้หลงเข้าใจผิดว่า เสียง CD ( มาสเตอรืสมัยใหม่ ) สู้เสียงจานเสียง ( มาสเตอร์เก่า ) ไม่ได้ บางทีก็หลงผิดกลับไปชมฮอร์นดีกว่า ชี้ฟ้องเห็นไหม เสียง CD หรือ มาสเตอร์ใหม่ๆ สู้มาสเตอร์เก่าไม่ได้ ( มันก็มีส่วน แต่ไม่ใช่ข้อสรุปที่ลืมและมองข้ามประเด็นดังกล่าว ) ในแง่ของมิติเสียงที่ได้จากลำโพงฮอร์น ????????? เรียนตรงๆว่าได้ฟังลำโพงฮอร์นมาไม่ใช่น้อย ทั้งลำโพงบ้านใหญ่-เล็ก วางหิ้ง วางพื้น ราคาเป็นหมื่นถึงเป็นล้าน ลำโพงฮอร์นโรงหนัง ฮอร์นในการแสดงบนเวที ในดิสโกเธค เวทีกลางแจ้ง ในสตูดิโอ ฯลฯ ไม่เคยพบว่ามีคู่ไหนเลยที่จะให้ทรวดทรงชิ้นดนตรีได้เป็น 3 มิติ มีแต่ฟุ้งๆแบนๆบิดเบี้ยวทั้งนั้น ตำแหน่งชิ้นดนตรีในวงก็แค่พอได้ไม่ขนาดชัดเป๊ะ ไม่นิ่ง วอกแวก ลำดับตื้นลึกในเวทีก็เป็นหลอกๆอย่างเก่งก็ 2 แถว กระดานเรียงหนึ่ง ยิ่งสูง-ต่ำไม่ต้องพูดถึงเลยพูดง่ายๆว่า ด้านมิติรับไม่ได้ สเกลของชิ้นดนตรี ????????? ก็เป็นอีกกรณีที่ลำโพงฮอร์นตกม้าตาย ความใหญ่-เล็กของชิ้นดนตรีดูบิดเบือนไปหมด บางครั้งขนาดเครื่องดนตรีใหญ่เกินจริงมาก บวม ฟุ้ง ยืด หรือควรเล็กก็ไม่เล็ก อีกจุดที่รับไม่ได้ ????????? ในด้านสุ้มเสียง ในอดีตลำโพงฮอร์นมีปัญหามากกับเสียงอู้ ก้อง แปล๋น แต่ปัจจุบันการออกแบบสรีระของฮอร์นและการเลือกใช้วัสดุ การจำกัดช่วงความถี่ที่ให้ฮอร์นทำงานได้ช่วยหลีกหนีเสียง อู้ ก้อง จนแทบหมด นอกจากลำโพงฮอร์นประเภทถูกๆมือใหม่หัดขับ ยี่ห้อโนเนมเท่านั้น บ่อยๆที่พวกนี้ต้องอาศัย EQ ช่วยแก้แต่จริงๆแก้ไม่ได้ จะไปทำให้โครงสร้างของความถี่เสียง,ตัวโน้ต เสียไปหมด สรุป ????????? นับวัน ลำโพงฮอร์นจะค่อยๆสูญหายตายจากไปโดยเฉพาะในวงการมืออาชีพ ไม่ว่าในสตูดิโอ ในงานคอนเสิร์ต ในโรงหนัง โรงละคร ระบบเสียงสาธารณะ นักเล่นเครื่องเสียงทั่วไปเรียกว่านับเวลาถอยหลังสูญพันธุ์ได้เลย หากจะยังหลงเหลือในหมู่นักเล่นเครื่องเสียงบ้านไฮเอนด์ ก็เข้าใจได้ในประเด็นแห่งการ ?หลงผิด?ดังกล่าวแล้วเท่านั้น หรือไม่ก็ถูกเกจิบางคน (ไม่ว่าไทย-เทศ ) หลอกให้เสียเงินแพงๆโดยใช่ที่เท่านั้น ????????? ในเรื่องของระบบลำโพง ไม่ว่าจะพิสดารล้ำลึกขนาดไหน กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ระบบ นั้นดีจริงหรือไม่ ถ้าดีและเหมาะสมจริงมันต้องอยู่ยั้งยืนยงตราบจนทุกวันนี้ www.maitreeav.com |