ต้องฟังเก่ง, ฟังเป็นจริงๆ อย่าลืมว่าคุณกำลังขายของให้ใคร กว่าครึ่งของลูกค้าของคุณมีประสบการณ์กับของดีๆ (แพงๆ)เยอะ พวกเขาอาจจะไม่เก่งที่จะวิเคราะห์แยกแยะหรือถ่ายทอดความรู้สึกเป็นคำพูดที่เข้าใจหรือเห็นภาพได้ อาจไม่แม่นเรื่องทฤษฏีหรือเหตุผลทางฟิสิกส์,วิศวกรรม,

จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้นทั้งหมด คุณคงพอมองออกถึงธรรมชาติของลูกค้าและการขายเครื่องเสียงไฮเอนด์ คราวนี้เรามากระเถิบขึ้นเหนือน้ำขึ้นไปคือ การเป็นผู้นำเข้าหรือ IMPORTER หรือ DISTRIBUTOR (ผู้จัดจำหน่าย) คุณจะต้องรู้อะไรบ้าง

ถ้าเราพิจารณาให้ ค.ศ. 1986 เป็นยุคที่เครื่องเสียงไฮเอนด์บูมสุดขีดทั่วโลก เหตุผลง่ายๆก็คือ ยุคนั้นเศรษฐกิจแถบเอเชียเติบโตแบบยั้งไม่อยู่ ด้วยแรงกระตุ้นและเงินทุนจากญี่ปุ่นที่ไหลหลั่งไปทั่วโลก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกา รวมทั้งไทยด้วย

เป็นใครก็ต้องอยากได้เครื่องเสียงดีราคาถูก ยิ่งถ้าได้เสียงระดับหูทองหรือไฮเอนด์แต่ราคาถูกติดดิน ยิ่งเหมือนถูกหวยหรืออย่างน้อยเสียงไฮเอนด์ในราคาถูกกว่าเครื่องไฮเอนด์เป็นสิบเท่า อย่างนี้เรียกว่า อนาถาไฮเอนด์

การจะชมภาพยนตร์ ให้มันสมจริง ได้อารมณ์ ไม่ว่าในบ้านหรือโรงภาพยนตร์ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความกระหึ่มของระบบเสียง เสียงระเบิดจะต้องสะเทือนอก หรือทั่วกายได้ก็ดี เสียงคำรามของเครื่องบินหรือยานอวกาศจะต้องต่ำลึกจนสะท้าน เสียงยิงปืนต้องรับรู้ได้

ในงานโตเกียวออดิโอแฟร์ครั้งล่าสุด ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วนี้เองพานาโซนิคออกเครื่องเสียง สเตอริโอรวมชุดใหม่ล่าสุด ใช้ชื่อว่า ตระกูล L-Compo ซึ่งมาจากคำว่า

ท่านฟังว่า ?แผ่นเสียง CD? แล้วอาจจะงง ตกลงมันคือแผ่นเสียง (LP) หรือแผ่น CD กันแน่ จริงๆคือแผ่น CD ปกตินี่แหละแต่ใช้แผ่นจานเสียง (LP) เป็นมาสเตอร์ถ่ายลงแผ่น CD (จากอนาล็อกสู่ดิจิตอล) ขอเรียกง่ายๆสั้นๆว่า LP/CD ก็แล้วกัน

ทำไมต้องมีการทดสอบ เนื่องจากแทบเป็นไปไม่ได้ที่ผู้บริโภคจะมีโอกาสได้สัมผัส,ลองฟัง,ลองใช้งานได้อย่างถึงลูกถึงคน และเป็นระยะเวลายาวนานพอ ไม่ว่าจะในห้างหรือตามโชว์รูม บางแห่งขอลองฟังแทบจะยากเย็นแสนเข็ญ

ธรรมชาติของหูมนุษย์จะตอบสนองความถี่เสียงได้ 20 ? 20,000 Hz เท่านั้น (เฉพาะเด็กแรกเกิด) แต่ผู้ใหญ่วัยกลาง คนขึ้นไปการรับรู้ความถี่สูงจะตกลงอย่างเก่งก็ไปได้แค่ 15,000 Hz