ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อน

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

ต่อไปนี้คือเรื่องผกผัน (PARADOX) ที่ชวนคิด ผมไม่อาจบอกได้ว่าใครถูกใครผิด หรือ ใครดีกว่ากัน มันขึ้นอยู่กับ มุมมอง สถานการณ์ สิ่งแวดล้อมนั้นๆ และเวลา รวมทั้ง “อนาคต” คำหลังนี่เป็นตัวตัดสินผิดถูกได้ค่อนข้างน่าคิด ต่อไปนี้คือ สถานการณ์จริง เรื่องจริง

          ถ้าวันนี้ คุณเป็นร้านติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ที่โด่งดังคับประเทศ ร้านคุณเก่าแก่นับ 20 ปี ขึ้นไป มีลูกน้องเป็นร้อย ร้านใหญ่โต จอดรถได้ทีละ 20 – 30 คัน คุณแบกรายจ่ายต่อเดือนสูงเอาเรื่อง นับล้านบาทขึ้นไป

          ถามว่า คุณจะสนใจชุดเล็กๆ 3 – 4 หมื่นบาทไหม ต่อให้ 5 – 6 หมื่นบาทด้วย ไม่ใช่เพราะคุณ 2 มาตรฐาน หากแต่รายจ่ายมันค้ำคออยู่ คุณขี่หลังเสือตัวโต คุณต้องหาอาหารมาป้อนให้มันมากทีเดียว ไม่อย่างนั้นเอาไม่อยู่ เป็นคุณจะมุ่งขายชุดเล็กกำไร 5,000 – 10,000 บาทต่อชุด (สุทธิ) หรือ ต่อให้กำไรมากกว่านี้ 2 เท่าคือ 20,000 บาท/ชุด คุณก็อยู่ไม่ได้ ม้วนเสื่อแน่นอน

          ทางรอดเดียวคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้ายอมลงทุนงบประมาณเป็นหลักแสนบาท ถ้าทะลุได้เป็นล้านได้ยิ่งดี คุณจึงจะแฮปปี้อยู่ได้ มีเงินเหลือเก็บและ “รวย”ได้(ตรงนี้ขอทำความเข้าใจก่อนว่า ไม่ใช่งบยิ่งสูง คุณภาพเสียง/ติดตั้งจะออกมาสมน้ำสมเนื้อกับเงินที่จ่าย เรียนตรงๆว่าในวงการนี้ยิ่งจ่ายมาก ยิ่งโง่มากๆ!)

          กับอีกร้าน ที่เป็นร้านเล็ก ช่างแค่ 4 – 5 คน รายจ่ายต่ำ ยังไม่ได้ดังคับฟ้า แต่ฝีมือติดตั้งระดับเทพเหนือพระกาฬ สามารถติดตั้งชุดเครื่องเสียงด้วยงบที่ประหยัดแค่ 4 – 5 หมื่นบาท แต่คุณภาพเสียงกินขาดชุดละ 5 แสนบาทหรือล้านบาท กำไรต่อชุดแค่ 1 – 1.5 หมื่นบาทต่อการติดตั้งถึง 3 วัน (3คืน) โดยถ้าขับคันที่ติดตั้งร้านนี้ไปอวดร้านใหญ่ ร้านดัง ร้านหรู รับรองว่าช็อคซีเนม่า อายม้วน หมอไม่รับเย็บ

          ถามว่า เป็นความผิดของร้านใหญ่ หรือเพราะโชคดี ดวงดีของเจ้าของชุดที่ไปเข้าร้านเล็กนั้น ต่อให้ร้านใหญ่มีฝีมือทัดเทียมกัน แต่ถ้ามานั่งจับปลาตัวเล็ก เขาก็อยู่ไม่ได้

          ทั้ง 2 ร้านอยู่ในสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม เงื่อนไขที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง   คันที่ติดจากร้านใหญ่ ดัง หรือหรู ก็สึกเท่ เอาไปอวดเพื่อนฝูงได้ ยิ่งเป็นสังคมชั้นสูง คนมีเงิน การได้ติดตั้งร้านดัง หรู ใหญ่ กับเครื่องเสียงยี่ห้อดัง หรู แพงระยับ มันคุยได้ ไม่อายเพื่อนในวงการเดียวกัน จึงไม่แพงหรอกถ้าเจ้าของรถจะต้อง “จ่าย” ค่าความหรูและค่านิยมในสังคมด้วยราคาที่แพงลิบลิ่ว นี่คือส่วนหนึ่งที่ร้านหรูขายให้ลูกค้ากลุ่มนี้

          ตราบเท่าที่ร้านหรูใหญ่ ติดชุดหรูใหญ่ ออกมาได้เสียงระดับเทพ ฝีมือพระกาฬ ฟังแล้วสวรรค์มีจริง  แต่ในโลกของความเป็นจริง ยิ่งชุดหรูแพงระยับ ยิ่งต้องการฝีมือการติดตั้งระดับโคตรเทพ ไม่ใช่เทพธรรมดา อย่าได้คิดว่าใช้ของดีๆแพงๆดังๆทั้งหมดแล้ว ยังไงก็ต้องออกมาดีถึงจะติดชุ่ยหรือมั่วๆไม่รู้จริง

          ร้านหรูนั้นจะยังคงกร่างในวงการได้ ตราบเท่าที่ ไม่มีระเบิดลงในวงการสักตูม เมื่อวันหนึ่ง.....

          เมื่อขับไปเทียบกับร้านหรู งบแค่ 4 – 5 หมื่นบาท สุ้มเสียง มิติเสียง ความน่าฟังกินขาดชุดละ 5 แสนบาท ชุดละล้านบาท ลองคิดดูว่า เจ้าของรถชุดละ 5 แสนหรือล้านกว่าบาทจะอับอายขายหน้า ช็อก หัวเสีย ความโกรธแค้นจะมากมายขนาดไหน! เหมือนตนเองเป็นไอ้งั่ง ถูกร้านหลอกอย่างแรง ชวนแค้น อับอายขายหน้าเพื่อนที่ติดมาถูกกว่ามาก ตัวเองเหมือนสัตว์ประหลาด มีเขาบนหัว สักแต่ว่ามีเงินแต่โง่ (เป็นควาย)

          เจ้าของรถบางคันที่ติดมาแพงลิบ ย้อนกลับไปร้านหรูกว่าถูกกล่อมแหกตา เอาของผิดมาพูดเป็นถูก เอาของถูกมาพูดให้ผิด ข่มโจมตีชุดถูก สุดท้ายเจ้าของรถเสียไปอีกแสนกว่าบาท ก็ยังสู้ชุดถูกไม่ได้ แต่อาจดีขึ้นบ้าง บางคันกลับไปต่อว่าร้านหรูคราวนี้แหละเป็นเรื่องเลย ร้านหรูจะหาทางออกอย่างไร ยิ่งถ้าเจ้าของรถเป็นผู้กว้างขวางมีอิทธิพลด้วย เป็นเจ้าพ่อ เป็นนักเลง....ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าทางร้านหรูจะหาทางออกอย่างไร ยิ่งถ้าเจ้าของรถ (เจ้าพ่อ) สั่งให้ถอดชุดเท่ออกหมด ขายคืนให้แก่ทางร้าน ยุ่งแน่ ร้านฟันกำไรเจ้าพ่อมา 4 แสนบาทขายชุดหนึ่ง 6 แสนบาท คราวนี้ราคาคืนเท่าไรล่ะ ตีให้ 3 แสนบาท เอาไปติดชุดถูก 6 หมื่นบาท (ที่เสียงดีกว่ามาก) ยังไงได้เงินคืนมา 2 – 4 แสนบาท ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ต่อร้านหรูสัก 10 ราย (เป็นไปได้....เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม) ร้านหรูตายแน่ ต้องคืนกำไรเป็นล้านบาท แถมมีของเก่าจมอยู่ 10 ชุด ต้นทุนของใหม่คือ 2 แสนบาท แต่ฟันกำไรไป 1 แสนบาท ตกต้นทุน 10 ชุดนี้ ชุดละ 1 แสนบาทก็ต้องมาขายเป็นมือสองชุดละ 3 แสนบาท ถึง 2 แสนบาท (น่าจะ 2 แสนบาทเพราะสายต่างๆถูกตัดหมดแล้ว) อาจไม่ขาดทุน (เพราะทุนจริง 2 แสนบาท) แต่ที่กังวลสุดๆคือ เหยื่อรายใหม่ๆที่มีเงินจะหายหมด เพราะปากต่อปาก ยิ่งคนมีเงินแค่ไหน เขายิ่งมีสังคมของพวกเขา ซึ่งไม่ได้กว้างขวางอะไรแต่ถึงกันหมด ถึงกันเร็ว หายหมดไม่ว่า จะแห่กันมาคืนของเป็น 100 คัน คราวนี้เป็นเรื่องเลย พอมองอนาคตของร้านได้เลยว่า สลบชัยแน่ ยิ่งโซเชี่ยลมีเดีย พวกเฟสบุ้ค ไลน์ มันแรง พูดง่ายๆว่าเดือนเดียว ร้านมีสิทธิ์เจ๊งได้เลย ขนาดรัฐบาลโคตรโกงกิน โคตรอันธพาลยังพังได้

          สมมุตินะ รถที่ติดมา 6 หมื่นบาทแต่กินขาดแบบหนังคนละม้วน กระดูกคนละเบอร์กับชุดละ 5 แสน – 1.5 ล้านบาทถุกนำไปโชว์บนห้างหรูอย่างพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ แค่ 2 ห้างนี้ ร้านติดตั้งหรูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน คงได้พังกันเป็นแถบๆ ยิ่งตอนนี้ช่อง TV Digital วิ่งหาเรื่องราวมาออกอากาศกันขาขวิด ลองมาทำข่าวรถคันนี้ด้วย โอ้....พระเจ้า อะไรจะเกิดขึ้น

คำถามทิ้งท้ายบทความนี้คือ แล้วมีรถที่ติดตั้ง 5 – 6 หมื่นระดับอภิมหาเทพอย่างนั้นจริงหรือ ?

          คุณอาจช็อก ถ้าผมจะบอกว่า มีจริง จับต้องได้ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน    รถ Honda Jazz สีดเขียวเหลืองใหม่เอี่ยมคันนี้ ติดเครื่องเสียงมาแค่ประมาณ 5 หมื่นบาทใช้เวลาติดตั้ง 6 วัน ใช้ชุดง่ายมาก คือ วิทยุ ไฮเพาเวอร์ JVC รุ่น 50 ที่ไม่มีภาคเล่นแผ่น CD มีแต่ภาครับวิทยุ กับภาคเล่น USB  กำลังขับแค่ 50WX 4CH (ที่ 4 โอห์ม,Max) ราคา 5,000 บาท ลำโพง Prism 6 นิ้วแยกชิ้น 2 ทางรุ่นท๊อปของ Prism ราคา 17,000 บาท

          มีการดัดแปลงวิทยุ ลำโพง ติดแผ่นกันสะเทือนสิบกว่าแผ่น คัดเลือกสายไฟ ใส่เทคนิคการติดตั้งอื่นๆที่ลึกล้ำ เกินคาดพอควรและการจูนด้วยหูระดับพระกาฬ สภาพรถเดิมๆใช้งานได้ตามปกติ ดูเผินๆไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

          ผลลัพธ์ที่ได้หลายอย่าง ชุดเครื่องเสียงบ้านระดับ 1 ล้านบาท (ที่ติดตั้งระดับเทพ) ก็ยังไม่มี! เสียงอิ่มเต็มพลัง ดุจใส่เพาเวอร์แอมป์ ระบบไบ-แอมป์มีซับ รายละเอียดเรียกว่าเก็บทุกเม็ดลึกถึงขุมขน ความกังวานพลิ้วฉ่ำไปทั้งวงทั้งเวที ทุกชิ้นดนตรี ทุกเสียงร้อง น้ำหนักเสียงดุจการแสดงสด อ่อนสุดไปดังสุดไม่อั้น (นอกจากเปิดกันแก้วหูแตกนั้นก็อีกเรื่อง แต่ถ้าเป็นการฟังปกติ....เกินพอ) สเกลของมิติเสียง ชิ้นดนตรีถูกต้อง เวทีเสียงกว้างหลุดลอย ทะลุออกไปนอกรถ เลยกระจกหน้ารถไปถึงฝากระโปรงหน้า สูง-ต่ำถึงระดับหลังคารถ (ทุกความถี่เสียง ทั้งๆที่ดอกลำโพงทุ้ม/กลางและดอกแหลมอยู่ที่ประตูหน้าเกือบถึงพื้นรถ) บางครั้งมีเสียงวิ่งอยู่ด้านหลัง พูดง่ายๆว่าไม่ใช่ดุจคุณกำลังนั่งชมอยู่หน้าเวที หากแต่เป็นคุณที่กำลังนั่งฟังอยู่กลางเวที (ลำโพงคู่เดียว!) ขยับขาอย่างไรบังหน้าลำโพงก็ไม่รู้สึกว่ามิติเสียงเปลี่ยนแม้แต่น้อย (ตบหน้าพวกอ้างสารพัดให้ติดลำโพงแหลม/กลางที่เสาหน้า) เปิดดัง เปิดค่อย สุ้มเสียงไม่เปลี่ยนและเหมือนเดิมตลอด ขนาดเปิดค่อยมากเสียงก็ยังอยู่ครบ มิติได้ ลำโพงล่องหนหายไปตลอดเวลา เวทีเสียงมีลำดับลึกตื้นของแต่ละดนตรีไล่เรียงกันไปจากหน้าไปหลัง นั่งฟังไม่ว่าตรงไหนในรถก็รู้สึกรับรู้สิ่งต่างๆที่กล่าวแล้วได้เหมือนกันหมดบรรยากาศที่อลังการงานสร้าง นิ่ง สมจริง โดยไม่ต้องมีตัวปรับแต่งมิติเสียง (DSP) อะไรแม้แต่น้อย

         อัลบั้มเดียวกัน ฟังจากชุดอื่นกับชุดนี้คุณจะพบอะไรๆหลายอย่างที่ไม่เคยฟัง ไม่เคยคิดว่ามี ได้จากชุดนี้ อีกทั้งจับทุกอากัปกิริยาทุกการสอดใส่อารมณ์ของนักร้อง นักดนตรีได้แบบ “ทะลุปรุโปร่ง” พูดให้ตกใจเล่น เสียงชุดนี้ดีกว่าและกินขาด ทุกชุดเครื่องเสียงบ้านที่เคยโชว์ในงานเครื่องเสียงบ้านเรา (และเมืองนอกที่ผมไปมา) นี่คือที่สุดของความมหัศจรรย์

          ผมยังนึกไม่ออกว่า อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีเจ้าของรถชุดหรูที่ถูกหลอกติดตั้งในรถ 5 – 6 แสนบาทหรือเป็นล้านกว่าบาท คิดบ้าๆอยากแก้แค้นร้านติดตั้งหรูที่ทำให้เขาเจ็บปวด โดยการที่เขายินดีออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ให้เอารถ Jazz คันนี้มาโชว์ที่พารากอน หรือเซ็นทรัลเวิลด์….ปรมาณูลงกลางวงการร้านติดตั้งและเอเย่นต์เครื่องเสียงแน่ ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน!

          เกือบลืมบอกไปเพื่อมิต้องให้ใครเที่ยวตามสืบว่า Honda Jazz นี้ติดตั้งร้านไหนก็ขอเฉลยคือติดตั้งโดยร้านอู่เจริญ ประดับยนต์ จังหวัดระนอง โดยโกป๋อง ที่วงการเครื่องเสียงรถรู้ประวัติว่า ระดับเทพขนาดไหน จากรถกระบะ D-MAX ที่นำมาโชว์ในงานมอเตอร์โชว์เมื่อหลายปีมาแล้ว ที่เล่นเอาบรรดาเกจิและเซียนตาเหลือกมาแล้วแต่คราวนี้ดีกว่าเดิมนั้น อย่างน้อย 3 เท่า! (ครับสามเท่า....ตาปลิ้น หูทะลักแน่)

          เบอร์โทรที่ร้าน 077-811-513 มือถือ 081-537-5325 นี่ไม่ใช่ระดับโลก แต่ระดับจักรวาล เปิดร้านมาเกือบ 30 ปีแล้ว (ปัจจุบันมีเครื่องบินนกแอร์ กรุงเทพฯ-ระนองทุกวัน ถนน 4 เลนเกือบตลอดถึงระนอง 2 เลนบางช่วงก่อนเข้าเมืองนิดนึง ขับรถไปใจเย็นๆ 7 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว)

          เสี่ยนั่งเครื่องไป ให้คนขับรถ ขับลงไป ขับกลับมาก็ได้ เขาติดฟิล์ม ล้างสี เคลือบแก้วด้วย โกป๋อง เป็นคนตรงอาจพูดตรงๆไปหน่อยแต่จริงใจถือเป็นเซียนเครื่องเสียงคนหนึ่งของวงการบ้านและรถ