|
หมวดหมู่ > เครื่องเสียงรถยนต์ > บทความเครื่องเสียงรถยนต์ >
ฟังให้เป็น...สำคัญที่สุด
วันที่ : 06/04/2016
ฟังให้เป็น...สำคัญที่สุด โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ ในการแข่งขันประกวดชุดเครื่องเสียงติดรถที่เน้นคุณภาพเสียงกันสุดๆอย่างในการแข่งของไฮเพาเวอร์ ที่ห้ามใช้เพาเวอร์แอมป์ภายนอก ของกติกา MAX ที่แข่งกันมา 2 สนามแล้ว (กาญจนบุรี สนามที่ 1 ,พัทยา สนามที่ 2) คันที่ได้ชนะเลิศที่ 1 สนาม 2 นี้ เป็นบุคคลธรรมดา มิใช่ร้านค้าใดๆ คันนี้ให้สุ้มเสียงและตำแหน่ง,ชิ้นดนตรี,เวทีเสียงดีเยี่ยมจริงๆ ใช้วิทยุCD CLARION 835 ,ลำโพง BOSTWICK EXTREME 6.5 (ดัดแปลง) และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ รถกระบะติดลำโพงด้านหน้าคู่เดียว ถ้าถอดเครื่องเสียงทั้งหมดนี้ออกมา พร้อมอุปกรณ์เสริมจูนต่างๆมาวางให้คนอื่นติดตั้งเข้าไปใหม่กับรถคันเดิมนี้แหละ จะได้เสียงเหมือนเจ้าของเดิมติดไหม ตอบได้เลยว่า ไม่มีทาง เพราะเจ้าของเดิมใช้การ ฟัง และจูนด้วยการ ฟัง อุปกรณ์แต่ละชิ้นๆไม่ว่าตำแหน่งที่ควรติด,ทิศทางสาย,ทิศทางอุปกรณ์ อย่างเขาใช้ตัวกรอง JM ถึง 20 กระบอก ต้องฟังจุดที่จะใส่และระยะห่าง “ทีละกระบอก” เขาละเอียดแม้กระทั่งการตั้งโช้คสปริงกันสะเทือนของรถซึ่งมีผลต่อเสียง (?) เขาใช้เวลาติดตั้ง 2 เดือน ประสบการณ์ในการฟัง (แบบไม่หลงทาง) 22 ปี เล่นทั้งเครื่องเสียงบ้านและรถ (ก็ไม่ได้เล่นของแพงมากอะไร) แต่ใฝ่รู้และลองฟัง ลองเล่น ลองทำมันมาหมด พูดง่ายๆว่า กุญแจสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จสูงขนาดนี้ก็คือ เขาฟังเป็น ต่อให้ใช้เครื่องไม้ เครื่องมือ พิสดารพันลึกขนาดไหน ก็ไม่อาจทดแทน 2 หู 1 ความเข้าใจที่ถูกต้องของมนุษย์ไม่ได้ เครื่องมือทำหรือบอกให้ได้ไม่ละเอียดขนาดนั้น และ ไม่มีทางทำได้ด้วย ร้านติดตั้งก็เหมือนกัน ถ้ายังฟังไม่เป็น (หรือไม่สนใจฟังให้เป็นเอาแต่ติดให้ดัง) ก็จะไม่มีวันติดตั้งให้ลูกค้าได้สุ้มเสียงออกมาดีที่สุด คุ้มค่าตามงบประมาณที่สุดได้ ถ้าติดรถเอาไปแข่งที่ไหนก็ไม่มีวันชนะได้ ลูกค้าที่หลงไปเข้าร้านที่ ฟังไม่เป็น ก็จะถูกร้านค้าหลอกหรือพาลงเหวให้เสียเงินโดยไม่จำเป็นหรือบานปลายไม่รู้จบ ถ้าฟังเป็นก็จะได้ต่อว่าติติงร้านค้าได้ว่าอะไรไม่ถูกต้องหรือชมเชยร้านค้ากรณีเขาติดมาอย่างถูกต้อง ผู้บริโภคได้แยกแยะออกว่า แต่ละร้านฝีมือดี-เลว ต่างกันอย่างไร ไม่วัดฝีมือหรือให้ความเชื่อถือร้านค้าโดยดูแต่เพียง ร้านขายยี่ห้อดัง,ยี่ห้อระดับโลก,การขายของแพงหรือถูก หรือ การมีถ้วยแชมป์ประดับร้าน จะได้รอดพ้นวังวนแห่งความผิดหวังซ้ำซากกับร้านที่เอาแต่ขายถูกที่สุด แต่ติดตั้งเลวที่สุด แต่ก็ต้องระวังไม่มัวแต่เชื่อใจว่ารถของเถ้าแก่ร้านเสียงดีมากแล้วเราคาดว่าเขาจะทำให้เราดีได้อย่างนั้น เพราะมีเหมือนกันที่รถของทางร้านไปติดตั้งร้านที่มีฝีมือจูนเสียวงเป็นที่อื่น เพื่อเอามาหลอกลูกค้าอีกที ดีที่สุดต้องขอฟังจากรถคันอื่นๆในร้านที่เพิ่งติดเสร็จ หรือกลับมาอีกทีเมื่อเสร็จ นั่นแหละของแท้เลย ผู้นำเข้าก็เหมือนกัน ถ้าฟังไม่เป็น ก็หลงสั่งสินค้าที่สุ้มเสียงสู้คู่แข่งไม่ได้สุดท้ายต้องใช้กลยุทธ์ที่จะยัดเยียดให้ร้านค้าไปหลอกขายผู้บริโภคอีกที ผู้นำเข้าควรเลิกทำตัวเป็นเด็กเกเร สั่งของที่เลียนแบบผู้อื่นแต่เนื้อในคุณภาพต่ำกว่ามากระแทกคนอื่น มันไม่ทางเจริญได้ ที่ถูกคือ ฟังให้เป็น คัดสินค้าให้ดี ฟังไม่เป็นก็ใจกว้าง จ้างคนที่เขาฟังเป็น (จริงๆ...ไม่ใช่ราคาคุย)มาช่วยฟัง ช่วยคัดให้ ก็ได้ของดีจริงไม่ต้องไปชกใต้เข็มขัดใคร เซลล์ขายที่ฟังเป็นก็จะรู้เขารู้เรา ว่าสินค้าของคู่แข่ง เทียบกับของเราเป็นอย่างไร เพื่อจะได้นำๆไปรายงานแก่เจ้านายได้อย่างถูกต้อง การวางแผนการตลาดจะได้ไม่ผิดพลาด การฟังให้เป็น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง มีกับดักให้หลงทางเยอะให้หลงวนเวียนในเขาวงกต ต้องพิจารณาแบบหลายมิติหลายแง่มุมต่อคุณสมบัติเพียงอันเดียวนี้จึงจะไม่หลงประเด็น ขนาดเคยสาธยายให้เพื่อนฟังพร้อมๆกับปรับแต่งเสียง (ในรถ) ให้เขาฟังตามไปด้วย เล่นเอาเขาร้อง “โอ้โห....นี่มัน 4 มิติกันเลย” ผู้เขียนเองใช้เวลาฟังและค้นคว้าลองผิดลองถูกมาทั้งชีวิตกว่า 40 ปี ปัจจุบันก็ยังต้องค้นคว้าต่อไป จึงทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะฟังให้เป็น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงที่จะทำ ยิ่งมีอาจารย์ดีๆที่รู้จริงไม่พาหลงทาง (ซึ่งหายากมากๆ)มาช่วยชี้แนะ ก็จะเรียนลัดได้มาก ขออย่างเดียวอย่าเอะอะก็ปฏิเสธ “ไม่จริง ไม่เชื่อ เคยลองแล้วไม่เป็นอย่างนั้น เมืองนอก,ฝรั่ง,เซียนเขาไม่ได้ว่าอย่างนั้น ฯลฯ” จริงๆแล้วก็ไม่ควรเชื่อใครทั้งนั้น เรารับฟังมาแล้วนำมาใคร่ครวญด้วยเหตุด้วยผลแล้วทดสอบลองดูด้วยตนเอง อะไรก็สู้การลงมือปฏิบัติจริงๆไม่ได้ยิ่งพวกผู้นำเข้าที่มีของเอง,สั่งลูกน้องทำได้ หรือพวกช่างที่คลุกคลีกับงานด้านนี้ทุกวันอยู่แล้ว หรือเซลล์ที่พอจะให้ร้านที่สนิทๆทดลองให้ฟังได้,หรือผู้บริโภคที่ข้องใจลองเสียเงินอีกเล็กน้อยให้ทางร้านแก้ไขชุดที่ติดไปแล้วให้ ทำๆได้ทุกฝ่ายก็ยิ้มออก จำไว้อย่าง (สำหรับผู้นำเข้า) สินค้าที่ดีจริง.....ไม่มีวันตาย (สำหรับร้านติดตั้ง) ติดดี.....ลูกค้าไปไหนไม่รอด (สำหรับเซลล์) แยกแยะเป็น.....รบ 100 ครั้งชนะ 100 ครั้ง (สำหรับผู้บริโภค) ฟังเป็น.....คือยันต์กันผี (สำหรับนักวิจารณ์) ความแตกต่างของอาจารย์กับอาจม www.maitreeav.com |