|
หมวดหมู่ > บทความ > กะเทาะเปลือกวงการเครื่องเสียงไฮเอ็นด์ >
อนาคตของเครื่องเสียงไฮเอนด์
วันที่ : 04/05/2016
อนาคตของเครื่องเสียงไฮเอนด์ โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ ถ้าเราพิจารณาให้ ค.ศ. 1986 เป็นยุคที่เครื่องเสียงไฮเอนด์บูมสุดขีดทั่วโลก เหตุผลง่ายๆก็คือ ยุคนั้นเศรษฐกิจแถบเอเชียเติบโตแบบยั้งไม่อยู่ ด้วยแรงกระตุ้นและเงินทุนจากญี่ปุ่นที่ไหลหลั่งไปทั่วโลก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอเมริกา รวมทั้งไทยด้วย ????????? แต่วันนี้ ญี่ปุ่นยังลูกผีลูกคน อเมริการ่อแร่ เกาหลีสร้างภาพ ยุโรปอยู่ไอซียู ไทยปริ่มน้ำ มีแต่จีนที่ยังเติบโตแต่ลดลงครึ่งหนึ่ง เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังติดลบและพร้อมจะแตกสลายเพราะเปาะบางเหลือเกิน ดังนั้น ฟันธงได้เลยว่าสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างเครื่องเสียงไฮเอนด์น่าจะรอวันสูญพันธุ์ (ซึ่งผู้เขียนภาวนาไม่อยากให้วันนั้นมาถึง) ????????? สังเกตว่า พวกซูเปอร์ไฮเอนด์จะตั้งราคากันแบบสวนกระแสด้วยราคาที่แพงลิบลิ่วอย่างหาเหตุผลไม่เจอ ระดับล้านบาทไม่ต้องพูดถึง เดี๋ยวนี้แต่ละชิ้นว่ากันหลายล้านบาท ขณะที่คุณภาพไม่ได้ดีขึ้นสมราคาค่าตัวเลย เหมือนกับว่าต่างรีบกอบโกยเป็นครั้งสุดท้าย (เพื่อขายให้จอมจุ้ยหน้าโง่หรืออาชญากรฟอกเงินข้ามชาติ) แล้วจะได้ปิดบริษัทเลิกกิจการแบบล้างมือในอ่างทองคำ ????????? ในวงการไฮเอนด์ ผู้เขียนขอเตือนนักเล่นว่า ราคา ไม่ได้เป็นหลักประกันใดๆทั้งสิ้นว่าเครื่องเสียงนั้นจะดีขึ้นตามราคาที่แพงขึ้นๆเสมอไป บ่อยๆที่ต้องตั้งคำถามว่า เขาทำออกมาขายได้อย่างไร เสียงอย่างนั้นฟังเป็นหรือเปล่า วงการไฮเอนด์มีแต่คำว่า HYPE หรือ ?ราคาคุย? หรือ ?เพ้อพกหลงทาง? ยิ่งตั้งราคากันสูงลิบอย่างไร้เหตุผล ทุกระดับของธุรกิจยิ่งถูกผลักดันด้วย ?ผลประโยชน์มหาศาล? มากกว่า ?ศิลปะและความบันเทิง? น่าเอน็จอนาถจนเสี่ย,อภิมหาเสี่ยที่เป็นนักเล่นจริงๆเข็ดเขี้ยว เหลือแต่อาชญากรฟอกเงินที่จะเป็นลูกค้า วงการจึงเหี่ยวและหดลง รอวันสูญพันธุ์ ????????? ในทางตรงข้าม เป็นเรื่องแปลกที่วงการเครื่องเสียงระดับกลางลงล่าง นับวันกลับเติบโตสวนกับไฮเอนด์ ที่สำคัญคือราคาถูกลงแต่คุณภาพกลับดีขึ้นๆ ไม่เกินจริงถ้าจะบอกว่ามินิคอมโบบางชุดราคาแค่ 2 หมื่นบาทแต่เสียง (CD) น่าฟังมี เสน่ห์กว่าชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ระดับเกือบ 2 ล้านบาท สายเสียง (INTERCONNECT) ราคา 500/ชุด เสียงน่าฟังกว่าสาย ไฮเอนด์ 3 หมื่นกว่าบาท ลำโพงไฮเอนด์ 9 หมื่นบาท เสียงดีกว่าซูเปอร์ไฮเอนด์คู่ละ 3.5 ล้านบาท ลำโพงไฮเอนด์ 8 แสน, 3.5 ล้าน,1.5 ล้าน,1 ล้าน (4 คู่ 4 ยี่ห้อ) ดอกลำโพงต่อกลับเฟส แต่นิตยสารใต้ดินชมเลอเลิศ ยกให้เป็นลำโพงแห่งปี...บ้าไหม ????????? ด้วยเทคโนโลยี่ใหม่ล่าสุด ไม่ว่าการโอนถ่ายข้อมูลแบบไม่สูญเสียผ่านอินเตอร์เน็ต (จากเว็บไซด์ขายเพลง) ,การบันทึกลงสื่อไร้กลไก (การ์ดความจำ),กลไกการเล่นแผ่น BLURAY,ดิจิตอลแอมป์,การทำงานบนพื้นฐานโปรแกรม (SOFT WARE) ที่เลือกบุคลิกเสียง,มิติได้,วัสดุการทำดอกลำโพงที่ดีขึ้นพิสดารขึ้น,ระบบการผลิตมากๆ (MASS) ,เครื่องเล่นพก พาที่ดีขึ้น,หูฟังที่ดีขึ้นถูกลง,ระบบซื้อขาย ON LINE ทั้งหมดนี้จะพลิกโฉมของวงการและธุรกิจเครื่องเสียงไฮเอนด์ไปอย่างที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีก ขณะที่ส่วนหนึ่งของผู้ผลิตจะเน้นราคาถูกและฟังก์ชั่นใช้งานโดยไม่ใส่ใจคุณภาพเสียง แต่เทคโน โลยี่เหล่านี้จะเปิดโอกาสให้อีกส่วนหนึ่งของผู้ผลิตสามารถผลิตเครื่องเสียง คุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ได้ แต่หุ่นไม่หรูหราบ้าเลือด ในราคาที่ใครๆก็ซื้อหาได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งส่วนนี้จะยิ่งกระทบกระเทือนต่อธุรกิจเครื่องเสียงไฮเอนด์ในรูปลักษณ์และความคิดเก่าๆ ซึ่งผู้บริโภคจะรู้สึกว่ามันแพงโดยไม่ได้ดีกว่าเครื่องเสียง MASS สมัยใหม่ นอกจากนั้น อินเตอร์เน็ต (เฟชบุ้ค) ทำให้นักเล่นถึงกันหมด การหลอกขายของ ขายภาพพจน์ ราคาคุยของวงการไฮเอนด์จะทำไม่ได้อีกต่อไป ต้องคุ้มค่าและดีจริงเท่านั้นจึงจะอยู่ได้ ????????? จับตา เครื่องเสียงไฮเอนด์ (แต่ราคาชาวบ้าน) จากจีน เมื่อไรที่จีนมีนักฟังหูอินเตอร์ที่ฟังเก่งจริง และจีนตั้งใจผลิตเพื่อส่งออกด้วยมาตรฐานสินค้าอินเตอร์ รู้จักทำการตลาดของเครื่องเสียงไฮเอนด์ เข้าครอบงำสื่อ ค้าขายแบบอินเตอร์จริงๆ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในวิสัยที่จีนทำได้ ถ้ามีกุนซือที่ดี เมื่อนั้น จีนจะครองเครื่องเสียงไฮเอนด์ทั้งหมด จนไม่น่ามียี่ห้อไหนเหลือรอด ทนอยู่ได้ ????????? ดังนั้น สำหรับผู้ผลิตเครื่องเสียงไฮเอนด์ในปัจจุบันต้องวิ่งเข้าหาจีนผลิตในจีนหรือร่วมมือกัน ที่สำคัญ ห้าม หรืออย่าคิดที่จะขาย ?ยี่ห้อดัง? ของตนให้แก่จีนไปสวมรอยผลิตเพราะยิ่งยี่ห้อดังของคุณ ?เคยโด่งดัง ได้รับการยอมรับ? แค่ไหน สาวกของยี่ห้อนั้นยิ่งรู้สึกสะอื้นและชอกช้ำพร้อมกับเมินหน้าหนี ยี่ห้อเดิมที่สวมวิญญาณจีนเพราะคุณได้ทำให้พวกเขาสูญเสียความภาคภูมิใจ ความจงรักภักดีต่อขวัญใจของพวกเขาเสียแล้ว ????????? ที่ถูกคือ ต้องปั้นยี่ห้อใหม่ทำในจีน ที่ทำให้ดูดีกว่าเก่าขึ้นไปอีก แต่เน้นว่ามันคุ้มค่าขึ้น ประหยัดขึ้น แถมต้องทำและพิสูจน์ให้ได้ว่า ดีกว่าเก่า ทุกกรณี ต้องขายภาพใหม่ จินตนาการใหม่ ความภาคภูมิใจใหม่ ????????? สำหรับผู้ผลิตเครื่องเสียงไฮเอนด์และผู้บริโภค สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ต้น น่าจะนำมาประยุกต์ในการกำหนดและวางตัวของการทำธุรกิจและการเลือกบริโภคได้อย่างมาก ได้ทราบสายสนกลในของวงการนี้อย่างถึงกึ๋นส์ จึงมั่นใจได้ว่าจะผิดพลาดน้อยที่สุดและประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจได้ คนไทยสามารถทำเครื่องเสียงไฮเอนด์ขายได้หรือไม่ ????????? คำตอบคือ ได้แน่นอน ตราบใดที่ค่ายญี่ปุ่นกับฝรั่งยังทำธุรกิจแบบบิดเบี้ยวและหลงประเด็น จูนไม่เก่ง ฟังไม่เป็น มีแต่ราคาคุย ขายความแพงอย่างเดียว ไม่ได้ขายคุณภาพเนื้อในจริงๆ ขณะที่ค่ายจีนบางบริษัทอาจฟังเป็นบ้างแต่มาตรฐานการผลิตยังไม่เท่าไร ยังรู้เทคนิคเรื่องไฮเอนด์ไม่มากนัก (ยังน้อยมาก) เครื่องเสียงไทยจึงมีสิทธิ์ก้าวถึงไฮเอนด์ได้ ขอแต่เน้นคุณภาพและลบความมีอัตตาหรืออีโก้ เปิดใจรับฟังจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะต้องมีทีมหรือนักฟังที่เก่งจริงๆมาช่วยจูน ชี้แนะและกล้าที่จะทำดี ขายราคาระดับ B++ ไม่ใช่ดูถูกตัวเอง กดราคาขายอย่างกับเครื่องโหล ไม่กล้ากินเหลาจนไม่มีงบ ในการทำประชาสัมพันธ์หรือต้องลดคุณภาพของลง รักจะทำของไฮเอนด์ต้องออกแบบอย่างไฮเอนด์ มีวิศวกรออกแบบ ที่เก่งจริง,ตัวถังที่ดูดี,คู่มือที่หรู,กล่องบรรจุที่ดูมีราคา,ทีมขายที่ไฮเอนด์,การโฆษณาที่ไฮเอนด์,การบริการหลังการขายที่ถึงลูกถึงคน,โชว์รูมที่ดี (ไม่จำเป็นต้องสุดหรู) สุดท้ายต้องมีสายป่านมีทุนมากพอ ถ้าครบองค์ประกอบ ไปได้แน่ และประสบความสำเร็จแน่นอน ผู้นำเข้าเครื่องเสียงไฮเอนด์จะพบว่าแทนที่จะต้องลงทุนหลายๆล้านบาทหรือนับสิบๆล้านบาทสั่งเครื่องเสียงไฮเอนด์นอกมาขาย สู้ผลิต,ออกแบบทำในนี้ มั่นคงและมันส์กว่าเยอะ กินกว้าง,กินไกล,กินนาน ไม่ต้องตีงูให้กากิน แล้วนั่งรอบริษัทฝรั่งเจ๊ง! หรือถูกแย่งเอเย่นต์ มี 2 อย่างเท่านั้นจริงๆ อนาคตวงการเครื่องเสียงไฮเอนด์บ้านเรา ตอบได้ทันทีครับ มืดมน ด้วยสาเหตุ
? www.maitreeav.com |