ห้องบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในโลก...กำลังจะเกิดขึ้น...ที่นี่

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

นิตยสาร What Thai Electronics & What PA ? ได้รับเชิญให้ไปสัมภาษณ์แบบ Blind Interview คนไทยท่านหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวตนและออกนาม ชื่อเล่นของท่านคือ เอก เป็นการเปิดใจสัมภาษณ์แบบส่วนตัวภายในสถานที่ ?น่าตื่นตะลึง? มาก ตามผมมานะครับ

ไมตรี : อยากทราบว่าคุณเอกมีแนวคิดอย่างไรในการก่อตั้ง Studio Pure ขึ้นมา ซึ่งดูแล้วค่อนข้างจะแหกแหวกแนวจากกระแสหลักไปมากโข

เอก : เรียนตรงๆเลยนะครับ พ่อผมรวย เงินทองทรัพย์สมบัติคุณพ่อและคุณแม่หาทิ้งไว้ให้ผมซึ่งเป็นลูกโทนคนเดียวด้วย กินใช้ขว้างทิ้งอีก 100 ปี 100 ชาติไม่มีวันหมด ธุรกิจของครอบครัวก็ไปได้ดี ไม่มีอะไรมาก run ไปได้ ของมันดีแล้ว ไม่ต้องห่วงผมก็แค่ดูแลบัญชีบ้างก็เท่านั้น ดังนั้น สตูดิโอบันทึกเสียงที่ผมกำลังจะทำจึงไม่มีวันเจ๊ง เพราะผมไม่ได้คาดหวังรายได้อะไรจากตรงนี้ ทำเอามันส์...สะใจ ว่างั้นเถอะ โดยส่วนตัวผมเองก็ชอบและรักเครื่องเสียงเป็นชีวิตจิตใจ ที่บ้านมีเครื่องเสียงไฮ-เอนด์หลายชุด กว้านซื้อแบบคนขายนึกว่าไปเปิดร้านขาย ทั้งคุณพ่อและผมหมดเงินไปกับเครื่องเสียงเป็นตัวเลขเกินแปดหลักไปแล้วครับ

?

ไมตรี : แปดหลักนี่ก็เกิน 10 ล้านบาทแล้วนะครับ ถ้ามีโอกาสขออนุญาตไปเยี่ยมชมบ้างครับ

เอก : ยินดีครับ จะเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยที่อาจารย์ไมตรีจะเสียสละเวลาอันมีค่ามาเยี่ยมชมติติง คุณพ่อก็เป็นแฟนคลับของอาจารย์มานานแล้วครับ ท่านเคยโทรศัพท์ไปปรึกษาอาจารย์อยู่หลายครั้งเหมือนกันแต่ก็นานมากแล้วครับ

?

ไมตรี : อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการทำห้องบันทึกเสียง Studio Pure ครับ

เอก : เรื่องของเรื่องก็คือว่า หลังจากที่ผมเข้ามาศึกษาเรื่องเครื่องเสียง ได้ลองโน่น ลองนี่ ตามคำชี้แนะของเกจิทั้งหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอาจารย์ไมตรีเองนั่นแหละ ผมกับคุณพ่อจึงได้สรุปว่า บ้านเราแทบไม่มีอัลบั้มเพลงไหนที่บันทึกได้ สมบูรณ์แบบน่าฟังเลย ?พูดง่ายๆว่าไม่มีเลยก็ได้ ไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ ทั้งๆที่บ้านเรามีห้องบันทึกเสียงชั้นนำเป็นสิบๆแห่ง มีโรงเรียนสอนการบันทึก ทั้งเป็นของคนไทยและเป็นสาขาจากเมืองนอก ค่าเล่าเรียนเป็นแสนบาท แต่ทำไมเราจึงผลิตอัลบั้มเพลงได้คุณภาพโลว์-เอนด์เช่นนี้ ไม่ว่าค่ายเพลงไหน ทั้งๆที่บ้านเราก็มีบุคลากรด้านช่างเสียงไม่น้อยเลย เสียดายเครื่องเสียงไฮ-เอนด์แพงลิบต้องเอามาฟังแต่แผ่นออดิโอไฟล์จากต่างประเทศ พอเอามาฟังอัลบั้มเพลงไทยไม่ว่าลูกกรุง ลูกทุ่งแล้วอยากร้องไห้ การบันทึกมันหลังเขาจริงๆ หลายๆอัลบั้มเลวร้ายอย่างไม่น่าเชื่อว่าทำให้มนุษย์ฟัง

?

ไมตรี : ผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ พูดก็พูดเถอะ อัลบั้มนอกที่มักอ้างกันว่า บันทึกแบบออดิโอไฟล์เอาให้หูทองฟัง แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของตลาดผมก็ยังพูดว่า ?สอบตก? มีแต่ราคาคุยหาความน่าฟังและเสน่ห์ไม่ได้

เอก : เป็นเช่นนั้นครับ ที่บ้านผมมีแผ่น CD เป็นพันๆแผ่น จานเสียงพวกเราก็เล่น เทปคาสเซทก็เก็บไว้ แม้แต่ล่าสุดพวก แผ่น BD ที่บันทึกเสียงให้ฟังเสียงอย่างเดียวผมก็ว่ามีแต่ชัดแต่ไม่มีเสน่ห์หรือธรรมชาติเลย

?

ไมตรี : ปัญหาน่าจะมาจากพวกอยู่ในวงการทำเพลง ?ฟังไม่เป็น? พวกเขาไม่รู้ว่า ?ความถูกต้อง? คืออะไร แล้วจะสร้างสิ่งที่ถูกต้องได้อย่างไร แม้แต่พวกนักออกแบบเครื่องเสียงฝรั่ง มีกี่คนกันที่ฟังได้อย่างถูกต้อง ไม่หลงประเด็น เข้าใจอะไรผิดๆอยากจะถามว่า สตูดิโอของคุณเอกจะแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร อะไรทำให้คุณเอกมั่นใจว่า ผลงานจากสตูดิโอของคุณเอกจะสร้างความแตกต่างที่เหนือชั้นกว่าใครทั้งหมด

เอก : แค่แนวคิดหลักของผมก็สวนกระแสโดยสิ้นเชิงแล้วครับ

ข้อที่ 1 เป็นสตูดิโอของนักเล่นเครื่องเสียงระดับไฮ-เอนด์ที่รู้ว่า สิ่งที่ถูกต้อง เสียงที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ผมไม่อยากคุยว่า ได้ลงทุนบินไปฟังคอนเสิร์ตที่เมืองนอกทุกรูปแบบ ทุกสไตล์เพลงมาทั่วโลก ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี หมดเงินไปเป็นล้านๆบาท ที่บ้านผมก็มีเครื่องดนตรีระดับโลก 2 ? 3 ชิ้น รวมมูลค่าร่วม 10 ล้านบาท เพราะฉะนั้น อย่าถามผมว่ามีประสบการณ์ขนาดไหน นี่ไม่นับจากที่ผมไป take course ช่างบันทึกเสียงที่อังกฤษและอเมริกามา 2 ปี ตัวผมเองก็จบปริญญาโทไฟฟ้าอีเล็กทรอนิกส์จากเยอรมนี แค่นี้คงพอเป็นหลักประกันเรื่องประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าของเรา

ข้อที่ 2 สตูดิโอของผมจะเน้นระบบ analog ทั้งหมด นอกจากการตัดต่อที่จำเป็นต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ตัว mixer เป็น pure analog อาจารย์เชื่อไหม แม้แต่ตัวทำเสียงก้องกังวานผมยังอุตส่าห์ไปตะเวนเมืองนอกหาตัวทำเสียงก้องแบบ analog ทั้งแบบระบบ drum , tape , plate จนฝรั่งงงว่า you จะเอาไปทำพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหรือไง นี่ผมกำลังออกแบบห้องสร้างเสียงก้องแบบที่ DENON เคยใช้กับสตูดิโอในญี่ปุ่น ถ้าคุณได้ฟังเสียงกังวานในระบบ analog เหล่านี้ คุณจะไม่กลับไปฟังเสียงก้องไร้มิติเก๊ๆจากการสร้างแบบ digital อีกเลย มันคนละโลกเลย ในสตูดิโอผมขณะช่างทำการมิกซ์เสียง ห้องช่างจะไม่มีระบบ digital ใดๆอยู่ในนั้นเลย ไม่มีจอ LCD ไม่มี PC แม้แต่โทรศัพท์มือถือหรือรีโมท ก็ไม่ให้เอาเข้ามาในห้องบันทึกเด็ดขาด ผมได้ทดสอบทดลองมาหมดแล้ว ล้วนบั่นทอนทำลายคุณภาพเสียงได้อย่างนึกไม่ถึง ยิ่งกว่านั้น ห้องบันทึกเสียงของผมอยู่ใต้ดินครับ ทั้งห้องบันทึกและห้องเล่นดนตรีผมกล้าพูดว่า เป็นหนึ่งเดียวในโลกครับ ผมต้องการความเงียบสงัดที่สุดและปลอดจากการสั่นกวน ปลอดจากคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ที่จะเข้ามากวนเครื่องมือผมให้เสียงแย่ลง

?

ไมตรี : ห้องใต้ดินต้องระวังความชื้นนะครับ ผมเชื่อว่ามีผลต่อเครื่องเสียงแน่ๆ เช่นเดียวกับเครื่องภาพ รวมทั้งทำให้เครื่องอายุสั้นด้วย

เอก : ครับ ทางสถาปนิกเขาก็แนะนำให้เพิ่มเครื่องดูดความชื้น นอกเหนือจากตัวห้องมีการทำแบบป้องกันน้ำซึมและความชื้นแล้ว

?

ไมตรี : ในการบันทึก คุณเอกเน้นแบบผสมเสียงแต่ละชิ้นดนตรีทีหลัง ที่เรียกว่า multi-track หรือบันทึกทีเดียวทั้งวงพร้อมกันไปเลยที่เรียกว่า real-track

เอก : เราทำได้ทั้งสองอย่างครับ อยากฝากไว้อีกอย่างครับของผมไม่มีการใช้ระบบไมค์ลอยเด็ดขาด เราใช้แบบสาย balance หมด เพื่อหลีกเลี่ยงคลื่น RF กวนครับ ต้องขอเพิ่มอีกหน่อยคือรับประกันว่าสายทุกชนิดทุกเส้นที่ผมใช้ในสตูดิโอ ไม่ว่าสายไฟ AC ที่โยงมาเข้าห้อง,สายไมโครโฟน,สายเสียง,สายลำโพง ขาปลั๊กไฟ AC ทุกเครื่อง จะต้องผ่านการฟังทดสอบทิศทางทั้งหมด ผมไม่อยากตายน้ำตื้นครับ สายต่างๆต้องไม่ม้วนเป็นขยุ้ม ต้องไม่แตะต้องกัน พูดง่ายๆว่าเอาคอนเซ็ปต์จากการจูนเครื่องเสียงไฮ-เอนด์ของนักเล่นกันเลย ตรงนี้ยืนยันได้ว่า ไม่มีห้องบันทึกเสียงไหนในโลกพิถีพิถันขนาดนี้ ผมตะเวนดูมาหมดแล้ว ตอนไปศึกษาที่ต่างประเทศ บางทีบันทึกกันมั่ว สายไมค์แต่ละตัวต่างกันก็มี สายใต้ mixer ก็ขยุ้มกันเป็นมัดๆพันรวมกันหมด เอาสวยไม่เอาเสียง

?

ไมตรี : ชุดฟังตรวจสอบหรือมอนิเตอร์ใช้อะไรครับ

เอก : ผมไม่ใช้ลำโพงแบบมีแอมป์ในตัวเด็ดขาดเพราะคุณภาพเสียง,มิติจะ drop ลงไปมากพอควร ผมจะใช้ลำโพงมอนิเตอร์แบบ passive โดยภายในผมมีการโมจนได้คุณภาพเสียง,มิติเสียงที่เที่ยงตรงที่สุด อาจารย์เชื่อไหม พวกลำโพงมอนิเตอร์ในห้องบันทึกแทบทั้งหมดเน้นแต่ทนวัตต์สูง เสียงดังฟังชัด ขี้ฟ้องหน่อย ไม่ได้เน้นมิติเสียงเท่าที่ควรเลย ไม่ว่า ทรวดทรงเสียง สเกลของเสียง perspective ของเสียง เวทีเสียง กรณีเหล่านี้ผมว่า ลำโพงบ้านไฮ-เอนด์กินขาด ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต่อสายเสียงจาก mixer ไปยังอีกห้องที่ผมจัดเป็นห้องฟังอย่างดี มีชุดเครื่องเสียงไฮ-เอนด์ที่เที่ยงตรง 1 ชุด ก็ไม่ใช่ไฮ-เอนด์สุดยอดแต่ชุดนี้ก็เป็นล้านนะครับ ซึ่งไม่ฉีกตัวหนีจากชุดที่ชาวบ้านฟังมากนัก จริงๆแล้วผมกำลังจะเพิ่มชุดชาวบ้านดีๆไปอีกชุดเรียกว่าฟังแบบอิงความเป็นจริง การจัดห้องฟังแยกต่างหากแบบนี้มีน้อยสตูดิโอมากที่จะลงทุนตรงนี้ มีแต่นั่งฟังกันในห้องบันทึกเสียงอยู่หลังช่างเสียงเท่านั้น ผมมีโครงการจะบันทึกแบบ binaural ที่ใช้ไมค์ 2 ตัวใส่ในหัวหุ่นด้วยบันทึกไปพร้อมๆกันเป็นการฟังกลับด้วยหูฟังจะได้เสียง,มิติเสียง,เวทีเสียง บรรยากาศแบบเซอร์ราวด์ ดุจไปนั่งฟังของจริงกันเลย

?

ไมตรี : ตอนตัดต่อนี่ ทำที่ไหนครับ

เอก : ผมจะแยกไปอีกห้องที่มี PC เพื่อตัดต่อด้วยซอฟต์แวร์ แต่ผมจะใช้คอมฯ ที่มีสเปกสูงสุด มีการใช้ซาวด์บอร์ดที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ แค่บอร์ดพวกนี้บอร์ดหนึ่งก็เป็นแสนบาทแล้วครับ ตัวจอ LCD จะใช้ขนาด 46 นิ้ว และแยกอยู่อีกห้องที่มีกระจกหนากั้น ป้องกันคลื่นกวนจากจอเข้ามาในห้องตัดต่อ ไฟของห้องนี้ก็มีการควบคุมและกรองให้นิ่งและสะอาดที่สุด เกือบลืมบอกไปครับ ห้องบันทึกที่ว่าใช้ระบบ analog ล้วนนั้น ยังมี digital บ้างคือเราบันทึกลงระบบ digital ที่อยู่ห้องตัดต่อ ลากสาย digital coaxial มา ผมจะบันทึกด้วยความละเอียดสูงสุด และใช้เมโมรี่แบบโซลิดสเตต ไม่ใช้พวกฮาร์ดดิสก์ เพราะเสียง,มิติ โซลิดสเตตดีกว่าครับ

?

ไมตรี : ห้องแสดงหรือเล่นดนตรีมีขนาดเท่าไรครับ

เอก : อันนี้เป็นความภูมิใจเลยครับ ห้องเล่นดนตรีของผมสามารถรับวงดนตรีขนาด 50 ชิ้นได้ เฉพาะตรงนี้ลงทุนไป 10 ล้านบาท ฝาห้อง,เพดานห้อง ปรับเปลี่ยนอะคูสติกส์ได้ ยังมีชุดคิตเป็นพวกพาทิชันไว้กั้นคอก แยกแต่ละชิ้นดนตรีไม่ให้เสียงตีกัน

?

ไมตรี : โอ้โห...นี่มันระดับโลกกันเลยนะครับ ถ้าอย่างนั้น ผมมองเห็นภาพเลยว่า ค่าบริการห้องอัด Studio Pure ต้องแพงลิบลิ่วแน่ๆครับ คุณเอกคิดว่า จะหาลูกค้าได้หรือครับ

เอก : ผมไม่ได้มองเฉพาะลูกค้าคนไทย ผมเชื่อว่าผลงานที่ออกไปจากเรา จะสร้างความตื่นตะลึงให้แก่วงการเพลงในยุค อินเทอร์เน็ตมี facebook,YouTube ถ้าคุณดีจริง แน่จริง คุณภาพคับแก้วจริง คุณดังได้ชั่วข้ามคืน ผมไม่ห่วงเลยเรื่องลูกค้า ที่นักดนตรีบ้านเราต้องหอบหิ้วกันไปอัดเสียงที่เมืองนอกอย่างฮ่องกง,สิงคโปร์ ผมจะทำให้ดูว่า ถึงเวลาที่พวกต่างประเทศ จะต้องหอบหิ้วกันมาบันทึก เสียงที่บ้านเราบ้างแล้ว เรื่องค่าบริการ บอกได้เลยว่า ไม่ถูก แต่ผมจะมีราคาพิเศษเฉพาะคนไทย ยิ่งถ้ามีความตั้งใจจริง ฝีมือดี แต่ทุนยังน้อยก็ยิ่งพิเศษขึ้นไปอีก อย่างที่เรียนให้ทราบ ผมไม่ห่วงเรื่องรายได้ ผมต้องการประกาศให้โลกรู้ว่าคนไทยก็ทำได้ และทำได้ดีกว่าทั้งโลกด้วย ห้องอัดของผมต้องเป็นหนึ่งเดียวและดีที่สุดในโลก ผมตั้งงบไว้ 600 ล้านบาทในเฟสแรก ไม่พอเพิ่มได้ อันนี้ไม่รวมค่าที่นะครับ

?

ไมตรี : คุณเอกมีแนวคิดที่จะขยับขยายตัวธุรกิจหลักอันนี้ออกไปอย่างไรครับ

เอก : อยากฝากอีกนิดครับ ผมรับรองว่าใครมาใช้บริการของเราแล้วจะติดใจและกลับไปใช้อย่างเดิมอีกไม่ได้เลย แต่มีข้อแม้ครับ เจ้าของผลงานพูดง่ายๆว่านายทุนที่ทำอัลบั้มจะมาชี้นิ้วสั่งให้ช่างเสียงของผมปรับเสียงให้พิกลพิการตามใจนายทุนไม่ได้ เพราะผลงานที่ออกไปจะเสียชื่อของเรา เงินที่ได้จากค่าบริการมันเทียบไม่ได้กับมูลค่าชิ่เสียงของสตูดิโอเราที่ระดับโลก ดังนั้น ถ้าศรัทธาเราก็มาใช้บริการ ถ้าไม่...ก็เชิญไปที่อื่น สำหรับแนวคิดขยายธุรกิจ ผมอาจมีการออกอากาศดนตรีสดทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ในอนาคต พูดง่ายๆว่า คอนเสิร์ตออนไลน์ ฟังฟรี โดยเรามีรายได้จากการโฆษณา นอกจากนั้นผมจะจับมือกับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยเรามีการจัดทำระบบ โหลดเพลงทางอินเทอร์เน็ต ลูกค้าจะได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ไปด้วย เป็นธุรกิจแบบ win-win คุณได้...ผมได้

?

ไมตรี : ไม่ทราบว่า Studio Pure จะเปิดให้บริการเมื่อไรครับและจะขยายไปสู่ระบบภาพได้หรือไม่ครับ

เอก : อย่างเร็วน่าจะกลางปีหน้า อย่างช้าก็ปลายปีหน้า ผมคงไม่รีบร้อนนัก นี่ผมกำลังสองจิตสองใจว่า จะเพิ่มเติมสอนเป็นโรงเรียนการบันทึกเสียงด้วยหรือไม่ ปัญหาคือบุคลากร เรื่องทุนไม่มีปัญหาครับ สำหรับระบบภาพก็มองๆอยู่ แต่คงไม่เร็วนี้ ผมอยากเน้นเสียงให้ดีที่สุดในโลกก่อนครับ

?

ไมตรี : จะติดต่อคุณเอกได้ที่ไหนครับ

เอก : คงต้องขอปิดตัวไว้ก่อนครับ อยากให้ทุกอย่างเสร็จหมดจึงเปิดตัว รับรองว่า ตะลึงกันทั้งบางครับ

ปิดท้าย...ครับ เป็นที่น่ายินดีที่ประเทศไทยจะมีห้องบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในโลก โดยผู้บริหารที่เน้นคุณภาพสูงที่สุด โดยคำนึงถึงทุกแง่มุมจริงๆ แบบที่ในโลกไม่มีใครสนใจทำกัน ผมเชื่อว่าผลงานที่ออกมาจะสร้างความตื่นตะลึงให้กับบรรดานักวิจารณ์ทั่วโลก และจะมีผู้แห่แหนกันมาใช้บริการจากทั่วโลก ประเภทหัวบันไดไม่แห้งทีเดียว

หมายเหตุ นี่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นให้อ่านสนุก แต่ได้ความรู้ว่า ห้องบันทึกเสียงที่ดีที่สุดควรเป็นเช่นไร ???