"ครั้งเดียวในชีวิต "

โดย .....อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

เมื่อประมาณเกือบ 20 ปีมาแล้ว บริษัทHARMAN INTERNATIONAL ได้ออกลำโพง JBL TL-260 รุ่นฉลอง     ครบรอบ 60 ปีของJBL ซึ่งผลิตจำนวนจำกัด  หลายคนไม่ทราบว่ามันดีอย่างไร 

 TL-260 เป็นลำโพงวางพื้นตู้เปิด 5 ทาง ! (ครับ 5 ทาง) ตัวตู้ไม้ขัดเงาสีดำเปียโนทรงสามเหลี่ยม ซ้าย สมมาตรกับขวา  

จุดเด่นคือ เป็นลำโพงขนาดใหญ่ที่ไม่กินวัตต์เลย ความไวน่าจะอยู่แถวๆ 92 dB/w/m ขณะที่ลำโพงขนาดใหญ่อย่างนี้ที่มีขายในท้องตลาดขณะนั้น ความไวจะต่ำ 85-87 dB/m ทำให้ต้องเสียเงินก้อนใหญ่  เป็นหลายแสนหรือหลักล้านกับเพาเวอร์แอมป์ 200wrms/ข้าง ขึ้นไป มาขับมัน 

เมื่อเป็นลำโพงวางพื้น ก็ไม่ต้องเสียเงินกับค่าขาตั้งลำโพงที่ระดับไฮเอนด์ ราคา40,000-70,000บาท/คู่ ขึ้นไป     เป็นลำโพงเปิดได้ดัง ใช้ได้ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เพราะโทนเสียงเป็นธรรม  ชาติ  สมจริง ไม่ใส่เสียงเสแสร้ง จึงฟังทน ไม่เบื่อง่าย    ให้การตอบสนองความถึ่เสียงกว้างมาก น่าจะตั้งแต่ 35 Hz - 50KHz เพราะให้ดอกซับ 12 นิ้วมา พร้อม ซุปเปอร์ทวีตเตอร์ (ไม่ต้องเสียเงินกับการหามาต่อเพิ่มอีก 4-5 หมื่นถึงแสนบาท)
จริงๆแล้ว ซุปเปอร์ทวีตเตอร์แค่ขี้นสูงได้ถึงระดับ 50KHz ก็เกินพอแล้ว

ในช่วงเวลาที่ TL-260 ออกมา ลำโพงขนาดใหญ่แบบนี้ที่คุยว่าไฮเอนด์  จะขายกันอยู่ที่ สามแสนบาทขึ้นไปแถมแค่2-3ทางไม่ใช่  5 ทางอย่างนี้ขณะทีมหาจักร ขายอยู่ที่ประมาณ  130,000บาท ซึ่งขายไม่ดีเอาเสียเลย เพราะตอนนั้น ภาพพจน์ของJBL เป็นลำโพงดีก็จริง แต่ไม่ใช่ลำโพงในทำเนียบไฮเอนด์ ผมเองก็เคยกระซิบบอกนักเล่นบ่อยๆ ว่า จริงๆ แล้ว JBL เป็นลำโพงดีมากๆระดับไฮเอนด์ได้ แต่คุณต้องรู้จักใจคอบางอย่างของมันและมันขี้ฟ้อง ไม่ช่วยกลบเกลื่อนเหมือนลำโพงที่คุยว่าไฮเอนด์ทั่วไป  คุณจะเอาราคาของมันมาวัดความเป็นไฮเอนด์ไม่ได้ 
ผมเคยไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่และศูนย์วิจัยของ JBL  ที่อเมริกามาแล้ว บริษัทลำโพงที่คุยว่าไฮเอนด์ทั้งหลาย ยากมากที่จะเทียบได้ทุกกรณื ดอกลำโพงใหม่ที่จะผลิตออกมา จากการวิจัยออกแบบจนได้พิมพ์เขียวแล้วปั้นเป็นตัวอย่างออกมาให้ลองฟังได้เลย JBL จะใช้เวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน ขณะที่เจ้าอื่นๆต้องใช้เวลา 2 ปีขึ้นไป

จริงๆแล้ว TL-260 ที่ทำออกมาเหมือนการคืนกำไรให้ลูกค้าผู้บริโภค เพราะว่าไปแล้ว เหมือนถอดแบบมาจากรุ่น Ti ที่ราคาคู่ละ สองแสนกว่าบาท ที่ตัวตู้อาจจะดูหรูกว่า ( แต่เชื่อไหมครับ ผมลองฟังมาแล้วทั้ง2รุ่น ผมว่าTL-260 เสียงดีกว่า !)

ร่วม 4 ปีต่อมา มหาจักร  ยอมตัดราคาTL-260ลงมา     จาก 140,000 บาท เหลือ 78,000 บาท ทำให้ผมต้องหันกลับมามองมันอีกครั้ง
(ถูกกว่่าลำโพงวางหิ้ง 2 ทางหลายรุ่นในขณะนั้น ! )

หลังสุดเมื่อ 5 ปีมานี้ ผมได้มีโอกาสฟังจริงจังหน่อยที่โชว์รูมมหาจักร   ขับด้วย  AVแอมป์DENON70wrms/ข้างที่ 8 โอห์มราคา 2หมี่น
กว่าบาท และDENON CD รุ่น 720 AE ราคา 18,000 บาท สายต่อสายลำโพงธรรมดา ไม่ได้มีตัวช่วยพิเศษอะไรเลยแค่แผงดูดคลื่นPerfect  Power RT-1 ราคา 3500 บาท 1 กล่อง(ดูทดสอบ ทั้ง 4 ตอน) เสียง มิติที่ได้ แทบไม่ต่างจากชุดไฮเอนด์  2 ล้านกว่าบาทในโชว์รูม !

มันเป็นไปตามที่ผมคิดและมองออก ถ้าใครโชคดีมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ  TL-260 แล้วจ้างมือปรับปรุงอัพเกรทที่ฟังเป็นจริงระดับเทพ( สำคัญและจำเป็น) มาปรับปรุง ตรวจสอบ ทิศทางสายภายใน อุปกรณ์บนแผงวงจรแบ่งเสียงทุกตัว ตัดหัวเสียบตัวยูออกหมด ผมมั่นใจว่า
TL-260 จะดีขี้นได้ทั้งสุ้มเสียง เวทีเสียงและมิติเสียง ไม่ต่ำกว่า 50 %ค่าปรับปรุง (ใช้เวลาเป็นอาทิตย์)  ตีว่า 30,000 บาท
แต่คุณจะได้ลำโพงระดับซุปเปอร์ไฮเอนด์ ในงบแค่ 100,000 บาท ที่อะไรๆก็ขับออกได้ดีเยี่ยมจนคุณไม่เชื่อหูตัวเอง   ที่สำคัญ ท้าชนกับลำโพงซุปเปอรไฮเอนด์ได้ทุกยี่ห้อ ไม่เกี่ยงราคา !

  ข่าวร้ายคือ ตอนนี้ ลำโพงJBL TL-260 เป็นของหายาก ของใหม่ไม่ต้องพูดถึง