|
"Nakamichi 1000 ตำนานตลอดกาล" โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ สมัยเมื่อ30ปีมาแล้ว เป็นยุคที่ระบบเทปคาสเซทครองโลก ไม่ว่าในรถในบ้าน พกพา แม้แต่ในสตูดิโอบางแห่ง เราต้องยอมรับว่า Nakamichi จากญี่ปุ่นคืออันดับ 1 ของโลกในเรื่องเครื่องเล่นเทปคาสเซท ไม่ว่าในรถ ในบ้าน ( พกพายกให้ SONY ไป) และ Nakamichi รุ่น 1000 คือ เครื่องเทปคาสเซทที่ดีที่สุดแพงที่สุดในประว้ติศาสตร์ของมนุษยชาติ Nakamichi 1000 เป็นระบบเทปคาสเซท 3 หัว แยกอิสสระ หัวลบ หัวบันทึก หัวเล่น (ปกติ 90 % ในท้องตลาด ห้วบันทึกและหัวเล่นจะเป็นหัวเดียวกัน ( หัวบันทึกที่ดีจะเป็นหัวเล่นที่เลว ) ทำให้คุณภาพแต่ละอย่างเอาดีที่สุดไม่ได้ แม้แต่หัวเหล่านี้ Nakamichi ก็ออกแบบล้ำหน้าที่สุดในยุคนั้นแทบจะทำด้วยมือกันเลย ระบบ3หัวทำให้บันทึกไป ฟังทดสอบได้ทันที หัวลบใช้ความถี่สูงพิเศษเพื่อลบได้หมดจด หัวเล่นมีระบบปรับความเอียงหัวเทปให้ร่องเสียงที่บันทึกมาไม่ว่าจากเครื่องไหน ตรงกับร่องรับสัญญาณแม่เหล็กหัว เล่นที่สุด(auto azimuth) ทั้งหมดออกแบบมาได้หรูเริดอลังการณ์ ( สั่งพิเศษ หน้าทองได้ด้วย ! )สมราคาในสมัยเมื่อ40ปีมาแล้วที่ แสนกว่าบาท (ทองคำบาทละ700 !) ถามว่า แล้วคุณภาพเสียง เป็นเช่นไร ผมได้มีโอกาสฟังทั้งที่ห้องบันทึกเสียง ไพบูลย์สตูดิโอ(ของ อจ. ไพบูลย์ ศุภวารี) ที่บ้านนักเล่นมีระดับ คนรู้จักอีก 2 ท่าน รวมทั้งที่เอเย่นต์นำเข้า ยุคนั้นเป็นที่ยอมรับว่า มันเป็นเครื่องเล่นเทปคาสเซทที่เสียงดีที่สุดในโลก เสียอย่างเดียว ไม่ใช่แนวเสียงที่ผมชอบ คือมันออกแนวราบเรียบจืดแห้งไปหน่อย ยังขาดความชุ่มฉ่ำ สด กังวาน พริ้ว(sparkle), ขาด ความดังอ่อนแก่ ความเร้าใจ (dynamic contrast) ,ขาดweighing พูดง่ายๆ ออกสงบพับเพียบเรียบร้อยเกินไป ซึ่งตรงกับบุคคลิคของญี่ปุ่น2 พี่น้อง Nakamichi ที่นุ่มนวลใจดีที่ผมเคยสัมภาษณ์ รุ่นรองลงมาคือ รุ่น900 ที่น้าชายผมใช้อยู่ก็เสียงสไตล์เดียวกัน(เครื่องโคตรร้อนเลย) รวมทั้งวิทยุเทปติดรถของNakamichiทุกรุ่น แม้แต่รุ่น Dragon 1000 (7หมื่นกว่าบาทเมื่อ40ปีมาแล้ว! ) แม้แต่ ปรี เพาเวอร์ รีซีฟเวอร์ , CD ของเขา สุดท้ายเมื่อเขาขายกิจการไป (กำไรมาอื้อซ่า) มาเปิด ปรี เพาเวอร์ยี่ห้อใหม่คือ NERO ระดับซุปเปอร์ไฮเอนด์ ที่เมื่อ 25 ปีมาแล้ว ไม่มียี่ห้อไหนในโลกคิดลึกซึ้งทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้น ต้องเรียกว่าเอาเป็นครูได้เลย น่าเสียดายที่ เขาก็ยังยึดถือสไตล์เสียงแบบเดิม อาจจะ dynamicขี้น รายละเอียดหยุมหยิมมากขึ้น แต่ราคาไปโลด ซึ่งก็ไม่ได้รับความนิยมในวงการซุปเปอร์ไฮเอนด์โลกเท่าที่ควร ขายได้แต่ในญี่ปุ่นเองเป็นหลัก หลังจากนั้น 2 พี่น้องก็หายไปจากวงการไม่ได้ข่าวอีกเลยและนายทุนที่ซื้อยี่ห้อNakamichiไปก็ทำสินค้าสารพัดตั้งแต่หัวแจ๊ค สาย เครื่องเสียงรถ ฯลฯ จับฉ่ายไปหมด ไม่มีภาพของไฮเอนด์เหลืออีกเลย นี่เป็นบทเรียนของการจะอยู่รอดในวงการเครื่องเสียง คือ อย่าทุ่มเท อะไรแบบหมดหน้าตัก เพราะถ้าวันหนึ่งมีเทคโนโลยี่ใหม่ฉีกตัวออกไปโดยสิ้นเชิง อย่างระบบเสียงดิจิตอล ที่มาแทนอนาลอค ทำให้ระบบเทปคาสเซทถูกลบออกไป แค่ชั่วข้ามปี ซึ่งต่อให้Nakamichi 1000 (แสนกว่าบาท) เสียงก็ไม่มีทางสู้เคริ่องเล่นCD DENON 720 AE (18,000 บาท ) ได้เลยแม้แต่น้อย ถ้าถามผมว่า ถ้ามีเงินเหลือๆจะหาซื้อ Nakamichi 1000 มาเก็บไว้ไหม ตอบได้เลย แน่นอน เพราะมันคือ ปฏิมากรรมระดับโลก ที่ส่งเสียงได้ บอกถึงความพยายามอุตสาหะของการทำสิ่งที่ดีที่สุด ท้าทายที่สุดของ2 พี่น้อง Nakamichi ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ตลอดกาลนาน www.maitreeav.com |