|
"มินิคอมโปหายไปไหน " โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ สมัยเศรษฐกิจดีๆ เมื่อ 40 ปีมาแล้ว มันไม่มีหรอก เครื่องเสียงห่วยแตกผิดกฏฟิสิกส์อย่าง SOUND BAR ที่ตู้เดียวครบทุกเสียง ที่ดูไปฟังไป ขนลุกในความเลวร้ายของเสียงและการออกแบบ เมื่อ 40 ปีมาแล้ว ยุคเฟื่องของมินิคอมโปที่เหมือน "ชุดเครื่องเสียง" ย่อส่วนจากชุดใหญ่แยกชิ้นปกติ ปกติจะมีมาครบ ทั้งส่วนเล่นเทปคาสเซท (1หรือ 2 หลุม), ส่วนเล่น CD, ภาครับวิทยุ ภาคปรับแต่งเสียง, ปุ่มยกทุ้มลึกอัจฉริยะ ส่วน EQ (5หรือ7 ความถี่เสียง) ภาคขยายเสียงกำลังขับ สมัยนั้น มินิคอมโปเสียงดีๆแบบว่าฟังแล้วอึ้ง ก็มี SONY , JVC, ยืนพื้น AIWA บางรุ่น ,KENWOOD เสียงผอมบางไปหน่อย ต่อมาในยุคปลาย DENON ก็เข้ามาร่วมวงโดยเน้นระดับ premium เล่น ไฟล์เพลง MP 3 ได้ (เชื่อไหมว่า มีอยู๋รุ่น ราคา แสนเศษ!แต่เสียงผมไม่ชอบ สู้รุ่นเล็กของมันเองไม่ได้) ที่โคตรน่ารักสุด ๆในโลก เสียดายที่ไม่ได้ซื้อไว้เพราะไม่มีตังค์ คือยี่ห้อ MARANTZ ที่ทำเป็นเหมือนชุดเครื่องเสียงแยกชิ้น " จิ๋ว" แยกเป็นตัว ๆ CD 1, Pre amp 1,Power Amp 1,เสียงไม่เท่าไร เอาเป็นว่าของประดับ แลัวกัน ตอนนั้นพวก มินิคอมโปเป็นอนาลอคล้วน ไม่มีระบบรับBlueTootใดๆ ภาคขยายเสียง class AB. แต่หลังสุดDENON ทำมา รับBlueTooth ได้ ภาคขยาย class D ทำให้ความน่าฟังติดลบไปหมด ไม่นาน โฮมเธียร์ 2.1/ 5.1 เข้ามา คนบ้าดูหนัง พวกมินิคอมโปก็ค่อยๆ สูญพันธุ์ไป จริงๆ ผมเชื่อว่า มินิคอมโปที่ BlueTooth ได้ MP3 ได้ , Internet Radio ได้, Streaming ได้ ทำออกมาขายได้ และน่าจะขายเป็นเทน้ำเทท่า ขณะที่ลำโพง BlueTooth ตั้งโต๊ะและกระเป๋าแบก ในท้องตลาดไม่ว่าราคาจะถูกเป็นขี้หรือแพงลิบ ไร้สาระ หาที่สุ้มเสียงเข้าท่าไม่ได้เลย ( อุบาทว์รูหูทั้งนั้น) เหมือนพวกนี้ทำเครื่องเสียงไม่เป็น www.maitreeav.com |