แล้ววันนี้ก็มาถึง...โซลาร์เซลล์

โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ

“...นักวิจัยที่ห้องทดลองด้านพลังงานนำกลับมาใช้ใหม่ได้แห่งชาติ (National Renewable Energy Lab) หรือ NREL รายงานเรื่องโซลาร์เซลล์ หรือเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ (หลักการควอนตัมภายนอก) ประสิทธิภาพด้านควอนตัมเกี่ยวกับจำนวนของอิเล็กตรอนต่อวินาทีที่ไหลผ่านวงจรของโซลาร์เซลล์หารด้วยจำนวนของโฟตอน (Photon) จากพลังงานที่เข้าไปสู่วงจร ทีมของ NREL ประสิทธิภาพสุดโด่งที่ 114 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำได้โดยการจัดเซลล์ในรูปที่เรียกว่า การผลิตแบบกระตุ้นซ้ำซ้อน (multiple exciting generation หรือ MEG) ซึ่งพวกเขาทำได้จริงแล้ว

                ด้วยวิธีการ MEG อนุภาคโฟตอนพลังงานสูงเพียงตัวเดียวสามารถผลิตหลุมอิเล็กตรอนได้มากกว่าหนึ่งต่อโฟตอนตัวเดียวที่ถูกดูดซับประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มขึ้นมา มาจากพลังงานที่เก็บเกี่ยวได้ของจุดควอนตัม (quantum dots “harvesting” energy) ซึ่งก่อนหน้านี้จะสูญเสียไปในรูปของความร้อน ตัวเซลล์เองจะถูกเคลือบด้วยสารป้องกันการสะท้อน ที่เคลือบบนตัวนำที่มองได้ทะลุ และถูกประกบด้วยผิวของสังกะสีออกไซด์, ตะกั่วซิลิเนียม และทอง (lead selenide) นักวิทยาศาสตร์ Arthur J. Nozik จาก NREL เคยพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปี 2001 แล้วว่า MEG จะเกิดได้จริงๆ ไม่ใช่แค่ในทฤษฎี แน่นอนมันได้สร้างความหวังว่า นี่จะทำให้พลังงานโซลาร์เซลล์มีราคาถูกจนเหมาะกับระบบขับเคลื่อนได้...”

                ข้อความข้างต้น ผมนำมาจากเว็บไซต์ engadget.com เรียนตรงๆ ว่า เทคโนโลยีด้านโซลาร์เซลล์ยังไม่มีเวลาล้วงลึก (แต่ก็ตุนหนังสือวิชาการด้านนี้ไว้พอประมาณ) แต่ถ้าประสิทธิภาพได้ทะลุ 100 เปอร์เซ็นต์อย่างนั้น ก็เป็นเรื่องแน่ๆ เศรษฐศาสตร์พลังงานจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งในส่วนมหัพภาค และส่วนจุลภาค ในสากลระดับประเทศไล่ลงมาถึงระดับชาวบ้านแต่ละคน (ปัจเจกบุคคล) ก็ยังไม่แน่ใจว่า เทคนิคนี้จะถูก “ตอน” โดยขาใหญ่ เจ้าพ่อน้ำมัน ถ่านหิน แก๊สทั้งหลายผู้คุม(ปั่น)เศรษฐกิจโลก รวมทั้งขาใหญ่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์หรือไม่ พวกเขาอาจส่งทีมสังหารไปเก็บกวาดทีมวิจัยหรือไม่ก็ใช้ไม้อ่อน กว้านซื้อเทคนิคทั้งหมดมาดองเอาไว้ พร้อมกับซุ่มพัฒนาเทคนิคโซลาร์เซลล์นี้ไปด้วยอย่างเงียบๆ รอว่า เมื่อไรน้ำมัน แก๊ส ถ่านหินหมดโลก พวกเขาก็จะปล้นโลกต่อด้วยโซลาร์เซลล์ประสิทธิภาพสูงอีกที หรือถ้าพวกเขาพัฒนาจนสุกงอมได้ที่ ก็อาจทุ่มทุนสร้างกระแสมลภาวะเรือนกระจกโลก ให้คนเลิกใช้พลังงานจากฟอสซิลดังกล่าว แล้วหันมาหาพลังงานจากโซลาร์เซลล์ของพวกเขาแทน มันเป็นไปได้หมด พวกเขาคือจ้าวโลกตัวจริง

                ในมุมมองของการลงทุนเกี่ยวกับน้ำมัน หรือแม้แต่โซลาร์ฟาร์ม (การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ระดับอุตสาหกรรม) ในบ้านเราก็ต้องจับตามองให้ดีๆ แต่ที่ลงทุนกันเป็นร้อยๆ ล้านบาท ถ้าวันดีคืนดี มีคู่แข่งโซลาร์ฟาร์มด้วยกันมาทีหลังแต่ใช้แผงโซลาร์เซลล์ระบบใหม่นี้ พูดได้คำเดียวว่า เจ้าเก่า “ตายอย่างเขียด” คิดดูว่า จากประสิทธิภาพต่ำกว่าลิบ หรืออย่างเก่ง 12 เปอร์เซ็นต์ ก้าวกระโดดไปกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ อะไรจะเหลือ ฟาร์มเก่าอาจได้สัญญารับซื้อจากการไฟฟ้าเพื่อเสริมระบบไฟปกติ แต่ฟาร์มใหม่ถูกกว่า (ประสิทธิภาพสูงกว่า) การไฟฟ้าย่อมเทงบมาซื้อจากฟาร์มใหญ่มากขึ้นๆ ตามปริมาณการใช้ไฟของชาติที่เติบโตก้าวกระโดด เท่ากับว่า เปอร์เซ็นต์การขายของฟาร์มเก่าจะหดตัวลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับเป้าซื้อโดยรวมของการไฟฟ้าจนถึงจุดหนึ่งการไฟฟ้าอาจยอมผิดสัญญาให้ฟาร์มเก่าปรับ โดยหยุดการซื้อจากฟาร์มเก่า เพราะเล็งเห็นแล้วว่า ซื้อจากฟาร์มใหม่ประหยัดกว่า ถูกกว่า จนคุ้มเกินคุ้มที่จะเลิกสัญญากับฟาร์มเก่า

                เป็นอันว่า ฟาร์มเก่าก็กลายเป็นวัตถุโบราณไปเลย ใครลงทุนด้วยก็มีสิทธิ์เจ็บตัวได้ง่ายๆ

                ทางรอดคือ ฟาร์มเก่าต้องกระโดดเข้าไปเล่นบทฟาร์มใหม่ด้วยเช่นกันเพื่อ “เฉลี่ย” ต้นทุนและความเสี่ยง แต่ก็คงต้องระดมทุนกันมหาศาล

                ในอีกแง่มุมหนึ่งซึ่งก็ขอเตือน แน่ใจหรือว่า เทคโนโลยีใหม่จะไม่ละเอียดอ่อน เปราะบางจนอ่อนไหวต่อสนามแม่เหล็กโลก พายุสุริยะ คลื่นวิทยุความถี่สูงสารพัดที่มนุษย์สร้างขึ้น จนอาจก่อให้เกิดปัญหาระบบเครือข่ายไฟทั้งหมดของประเทศ หรือความเสียหายที่คาดไม่ถึงต่อมวลมนุษยชาติ

                ทำนองกลับกัน แน่ใจหรือว่า แผงโซลาร์เซลล์ระดับควอนตัมมีเนื้อที่เป็นพันล้านกิโลเมตรทั่วโลก จะไม่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อสนามแม่เหล็กโลก หรือกลายเป็นตัวล่อพายุแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ให้ถล่มโลก หรือเป็นตัวป่วน พลังออร่าของมนุษย์โลกเสียเอง จนภูมิคุ้มกันของร่างกายล้มเหลวหมด ชากโลกติดเชื้อโรคกันทั่วโลก รวมทั้งสุขภาพที่ถดถอย หรือแม้กระทั่งจิตประสาทที่บิดเบี้ยว (ใกล้เป็นมนุษย์ผีดิบ ซอมบี้ ขาดสติสัมปชัญญะผิดชอบชั่วดี) โลกคงโกลาหลเป็นนรกบนดิน

                บอกแล้ว...ของฟรีไม่มีในโลก กลับไปปั่นจักรยานถีบกันดีกว่า...!!!