|
ลำโพงแผ่นกระดาษ โดย...อ. ไมตรี ทรัพย์เอนกสันติ สำหรับผู้รับติดตั้งระบบเสียงสาธารณะแล้ว ( Public Address หรือ PA )ปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดคือ
ด้วยเล็งเห็นปัญหาเหล่านี้ ทางบริษัท Warwick Audio Technologies จึงได้คิดค้นระบบลำโพงใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Flat Flexible Loudspeaker หรือ FFL ขึ้นมาเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้ บริษัท Warwick Audio Technologies ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2001 ที่ประเทศอังกฤษ โดยผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Warwick, School Of Engineering บริษัทก่อตั้งโดย Steve Couchman ( CEO ) ,Duncan Billson ประธานและผู้อำนวยการ ด้านเทคนิค ( Duncan เป็นผู้ร่วมคิดค้นประดิษฐ์ลำโพง FFL กับศาสตราจารย์ Hutchins),Mark Thompson เป็นผู้อำนวยการด้านการขายและการตลาด มีประสบการณ์มาจากหลายบริษัทชั้นนำ, David Hoare ผู้จัดการด้านวิศวกรรม มีประสบการณ์ด้านออกแบบและผลิตด้านผลิตภัณฑ์อีเล็กทรอนิกส์กว่า 30 ปี และ Tony Abramson ผู้อำนวยการด้านการเงิน ( FCA ) ประสบการณ์ 20 ปีกับกว่า 10 บริษัท หลักการทำงานของลำโพง FFL ตัวลำโพงประกอบด้วยแผ่น membrane 2 แผ่น แผ่นเรียบละเอียดอยู่ด้านหนึ่ง แผ่นที่เป็นเหมือนรวงผึ้งจะอยู่อีก ด้าน ทั้งสองประกบกันโดยมีฉนวนกั้นกลางสัญญาณเสียงในรูปไฟฟ้าจะเข้าสู่แผ่น mambrane ทั้ง 2 โดยการทำงานจะคล้ายลำโพงอิเล็กทรอสแตติก ผิวทั้ง 3 ชั้นนั้นหนาแค่ 0.2 มม บางเฉียบและสามารถบิดงอจัดเข้ารูปอย่างไรก็ได้ เนื่องจาก FFL ทำงานด้วยสนามไฟฟ้าสถิต กระแสไฟขับตัวกำเนิดเสียงคือแผงทั้ง 3 ชั้นโดยตรง ( หลักการน่าจะ คล้ายกับลำโพงแบบผลึก หรือ Pizoelectric แผ่น membrane ทั้งสองมีการทำให้มันเหนี่ยวนำไฟฟ้าได้ หรือ conductive film ) แผ่นนี้จะบิดตัว โก่งตัวขึ้นลงเป็นหย่อมๆทั่วทั้งแผ่น ( mode ) ผลักอากาศให้เกิดเป็นเสียงได้ เนื่องจากมันเป็น Direct Drive ตัวกำเนิดเสียงหรือผลักอากาศโดยตรง มันจึงให้ประสิทธิภาพได้สูง กินวัตต์ต่ำ ต่างจากดอกลำโพงทั่วไป Dynamic ที่กระแสสัญญาณไหลเข้าขดลวดวอยซ์คอยล์เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ( Electromagnetic Field ) มาผลักกับสนามแม่เหล็กถาวรจากแท่งแม่เหล็กถาวรรอบวอยซ์คอยล์ แล้วจากนั้น วอยซ์คอยล์เกิดการขยับเข้า-ออก จึงพาให้กรวยลำโพงที่ยึดติดด้วยกัน ขยับเข้า-ออกตาม ผลักอากาศเกิดเป็นเสียง จะเห็นว่าวิธีนี้เป็นทางอ้อม จึงมีการสูญเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์มาก การที่ลำโพง FFL ตัวกำเนิดเสียงเป็นแผ่นเรียบและทุกจุดมีการขยับกำเนิดเสียง จึงเกิดการหักล้างกันเอง ( ตามธรรมชาติของลำโพงแบบแผ่นแบน ไม่ว่าลำโพงริบบอน,ลำโพงอิเล็กทรอสแตติก,ตู้ลำโพงแบบใช้ดอกลำโพงเรียงนับสิบๆตัว ) ผลคือเสียงทั้งหมดที่มาจากแผ่นกำเนิดเสียงจะมีมุมแคบจำกัด ไม่กระจายตัวบานออก เกิดเป็นลำเสียง ( sound beam ) ลำโพง FFL สามารถให้ระดับเสียงได้ 80 – 105 dB ซึ่งพอเพียงสำหรับงานสาธารณะดังกล่าวแล้ว ระดับเสียงที่ได้จริงขึ้นอยู่กับพื้นที่ของแผ่นนี้ ปัจจุบันลูกค้าเลือกได้ตั้งแต่ขนาดแผ่นกระดาษ A5-A3 เนื่องจากลำโพง FFL ไม่มีการใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าใดๆจึงตัดปัญหาการที่มันจะไปรบกวนหรือมันถูกรบกวนจากอุปกรณ์ที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหรือแม้กระทั้งเสียงติ๊ดเข้าออกจากการรับสัญญาณของโทรศัพท์มือถือ อีกประการหนึ่งคือ การที่ลำโพง FFL ให้เสียงเป็นลำ จึงสามารถดัดโค้งงอตัวมันเพื่อปรับมุมกระจายเสียงได้ เหมือนเราปรับกระจกเงาโค้ง แผ่นกำเนิดเสียงของ FFL สามารถทำให้ใหญ่โตแค่ไหนก็ได้ ( พิมพ์ภาพลงไปก็ได้ ) จึงได้เปรียบในเชิงการผลิต ยิ่งใหญ่ยิ่งมาก ยิ่งถูกลง ดังนั้นในโครงการที่ต้องใช้ลำโพง FFL เป็นจำนวนมากราคาต่อชิ้นต่อจุดติดตั้งจะกลับลดลง ต่างจากระบบอื่นปกติทั่วไปที่ราคาจะคงที่หรืออาจเขยิบสูงขึ้นเป็นลำดับถ้าต้องการเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้าไปอีก การที่ลำโพง FFL บางเฉียบ เบาหวิว แถมพิมพ์ภาพลงไปได้แทบจะแปะตรงไหนก็ได้ ทำให้ติดตั้งง่ายมาก ซ่อนรูป แนบเนียนเหมือนเป็นลำโพงล่องหน เลิกกันทกับต้องคอยทะเลาะกับผู้ตกแต่งภายใน สุดท้ายคือ การที่มันให้เสียงเป็นลำแคบๆ ( ที่เราสามารถดัดได้ ) ทำให้สามารถบีมเสียงให้ดังเฉพาะจุดได้ ช่วยให้ผู้ที่อยู่บริเวณจุดนั้นได้ยินเสียงชัด และเสียงก็ไม่ไปรบกวนคนอื่นๆหรือไปกระตุ้นการก้องของห้อง เราจึงสามารถวางแผน “แนวเส้นทางการได้ยิน”, “จุด-บริเวณจำกัดที่จะให้ได้ยิน”, “วงกว้าง-แคบของการได้ยิน” เรียกว่า mapping เสียงได้เลย ตัดปัญหาข้อ 1 – 5 ได้หมด เนื่องจากการติดตั้ง เคลื่อนย้าย ตรึงติดตัว FFL นั้นง่าย ใช้เวลาน้อยที่สุด จึงสามารถรับงานที่ถูกบีบเรื่องเวลาได้ อย่างกระชับ มั่นใจที่สุด ( ตามข้อ 6 ) สุดท้ายข้อ 7 เนื่องจากติดตั้งและเพิ่มเติมส่วนขยายจำนวนลำโพง FFL ทีหลังทำได้ง่าย จึงทำให้เจ้าของโครงการไม่ จำเป็นต้องทุ่มเงินก้อนใหญ่ทีเดียวในการติดตั้ง หากแต่สามารถเริ่มที่จุดสำคัญๆก่อนได้แล้วขยับขยายเพิ่มเติมทีหลังไป เรื่อยๆ เจ้าของโครงการสามารถบริหารกระแสเงินสดได้คล่องตัวขึ้น มีความเสี่ยงลดลง บริหารต้นทุนได้ประสิทธิภาพ สูงสุด ตามข่าวไม่ได้บอกว่าลำโพง FFL ให้สุ้มเสียงดี เลวแค่ไหน ดีพอที่จะนำมาฟังเพลงอย่างหูไฮ-ไฟได้ไหม เป็นโหลด ( load ) ที่ขับยากหรือง่ายแค่ไหน ประสิทธิภาพตัวเลขจริงเท่าไร ถ้าจะให้ผู้เขียนคาดคะเน คิดว่า น่าจะเหมาะกับความถี่เสียงกลางเท่านั้น ถ้าจะเอามาตรฐานเสียงไฮ-ไฟอาจต้องเพิ่มดอกลำโพงเสียงแหลมหรือดอกลำโพงเสียงทุ้ม ลำโพง FFL จึงอาจเหมาะกับระบบเสียงสาธารณะ ( ส่งเสียงตามสาย ) เท่านั้น อย่างน้อยก็ในเบื้องต้นนี้ แต่กระนั้น มันก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว www.maitreeav.com |