DAMPING FACTOR คือหนึ่งในตัวกำหนดคุณภาพของเสียงที่แทบไม่มีใครพูดถึงหรือรู้จัก มันเป็นตัวชี้บอกคุณภาพของภาคขยายได้อย่างดี (วงจรดีแค่ไหน,ใช้ของดีแค่ไหน) อีกทั้งเป็นตัวทำให้หลายคนหลงประเด็นได้ง่าย ๆ

เป็นที่ทราบกันดีว่าเพาเวอร์แอมป์รถยนต์เวลาใช้งานจะร้อนมากถึงร้อนอย่างยิ่งยวดคือ ร้อนขนาดว่าเอานิ้วแตะแช่ได้ไม่เกิน 1 นาที (นิ้วพอง) จนถึงร้อนขนาด ?เตารีด?ร้อนจนผมกลัวจริงๆว่าวันดีคืนดี (จริงๆต้องพูดว่าวันร้ายคืนร้าย)คงลุกเป็นไฟเผารถทั้งคันแน่

การเล่นเครื่องเสียงรถ การติดตั้งที่ถูกต้อง มีผลต่อสิ่งที่ได้ถึง 85 % ทีเดียว สำหรับคนทั่วไปซึ่งไม่มีความรู้เรื่องการ ติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์คงต้องพึ่งพาผู้ที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะ นั่นคือ ร้านติดตั้ง แต่ทำอย่างไรจึงจะได้พบกับร้านที่ดี มีจริยธรรม ซื่อสัตย์

ทำไม รถบางคันติดเครื่องเสียงมาแค่หมื่นกว่าบาทหรือ 2หมื่นกว่าบาท จึงให้เสียงและบรรยากาศ ความน่าฟัง ดีกว่าบางคันที่ติดมาเป็นแสนหรือหลายแสนบาท - ทำไม รถที่เข้าแข่งประกวดเครื่องเสียงรถยนต์ ทั้งแง่คุณภาพเสียง และแง่พลังเสียงจึงกินขาด รถที่ติดออกมาใช้งานจริงๆจากร้านเดียวกัน

เรื่องของการโชว์พลังเสียงว่า คันของใครจะเปิดเสียงได้ดังกระหึ่มกว่ากัน เป็นการแสดงอัตตาหรือการยึดมั่นถือ มั่นของแต่ละคนบนพื้นฐานของการพยายามเอาชนะกัน โดยไม่คำนึงถึงว่า จะต้องสูญเสียอะไร ที่แน่ๆคือ เสียเงิน

ผมมักถูกถามค่อนข้างบ่อยถึงแนวทางในการปรับปรุงคุณภาพเสียงจากเครื่องเสียงรถที่ติดมากับรถหรือเพิ่งติดตั้งใหม่ ให้เสียงและมิติเสียงดีขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ย่อมไม่อยู่นิ่ง

จริงๆ แล้วผมเคยเปิดประเด็นนี้ในนิตยสาร ?แหล่งรถ? นานกว่า 5 ? 6 ปีมาแล้วผมก็หวังว่าร้านติดตั้งจะได้ตื่นตัวและทำสิ่งนี้ให้แก่ลูกค้า เนื่องจากมันมีประโยชน์อย่างมาก โดยผู้บริโภคแทบไม่ได้ลงทุนมากขึ้นเลย

สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ ถ้าบอกว่าเพาเวอร์แอมป์รถยนต์ราคาเกือบสองแสนบาทหรือกว่านั้น พวกเขาคงช็อคกันแน่ ราคาเกือบเท่ารถเก๋งเก่าสภาพดีได้เลย หรือพอๆกับเพาเวอร์แอมป์บ้านระดับไฮเอนด์ได้เลย

ต่อไปนี้คือเรื่องผกผัน (PARADOX) ที่ชวนคิด ผมไม่อาจบอกได้ว่าใครถูกใครผิด หรือ ใครดีกว่ากัน มันขึ้นอยู่กับ มุมมอง สถานการณ์ สิ่งแวดล้อมนั้นๆ และเวลา รวมทั้ง ?อนาคต? คำหลังนี่เป็นตัวตัดสินผิดถูกได้ค่อนข้างน่าคิด ต่อไปนี้คือ สถานการณ์จริง เรื่องจริง